หน้าแรก บล็อก

รีวิวงาน “International Engineering Expo 2024” หรือ งานวิศวกรรมแห่งชาติ 2567

0

NOTE

[ รีวิวงาน “International Engineering Expo 2024” หรือ งานวิศวกรรมแห่งชาติ 2567 ]

.

งานจัดวันที่ 24 – 26 กรกฎาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ห้องบอลลูม ชั้น 1

.

งานแสดงเทคโนโลยีและการประชุมวิชาการด้านวิศวกรรมนานาชาติที่ครอบคลุมมากที่สุด งานเดียวแห่งอาเซียนที่ร่วมจัดโดย วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด

.

ภายใต้แนวคิด การขับเคลื่อนวิศวกรรมไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืน (Driving Sustainability Responsiveness)

.

ปีนี้จัดร่วมกับ งาน ASEAN Tools Expo 2024 งานแสดงนวัตกรรม เครื่องมือ และอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์ทุกงานช่าง ครั้งยิ่งใหญ่ในประเทศไทย

สำหรับงานนี้ ไม่ว่าคุณจะเป็นช่างแบบไหน หรือเป็นนักธุรกิจด้านเครื่องมือช่าง งานนี้เหมาะที่สุดสำหรับคุณ เป็นงานเดียวที่ตอบโจทย์ทุกงานช่าง!

.

ภายใน งาน “International Engineering Expo 2024” หรือ งานวิศวกรรมแห่งชาติ 2567 มีสัมมนาที่ครอบคลุมทุกสาขาด้านวิศวกรรมกว่า 72 หัวข้อจากผู้เชี่ยวชาญชั้นนำ อัดแน่น จัดเต็ม ตลอดทั้ง 3 วัน งานนี้เข้าฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้ PDU พร้อมรับ e-Certificate ภายในงาน

.

ลงทะเบียนได้ที่ –> https://ienxpo.rg.in.th

.

รายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติมสามารถดูได้จากเว็บไซต์ และ Facebook : IENXPO 2024

.

#นายช่างมาแชร์ #internationalengineeringexpo2024 #IENXPO2024 #งานวิศวกรรมแห่งชาติ #EIT #NCC

อธิบดีกรมโรงงานฯ และ กระทรวงสิ่งแวดล้อม ประเทศญี่ปุ่น ร่วมหารือจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ มุ่งรีไซเคิลใช้ประโยชน์ใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ

0
อธิบดีกรมโรงงานฯ และ กระทรวงสิ่งแวดล้อม ประเทศญี่ปุ่น ร่วมหารือจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ มุ่งรีไซเคิลใช้ประโยชน์ใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ
อธิบดีกรมโรงงานฯ และ กระทรวงสิ่งแวดล้อม ประเทศญี่ปุ่น ร่วมหารือจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ มุ่งรีไซเคิลใช้ประโยชน์ใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ

วันที่ 19 กรกฎาคม 2567 เวลา 14.30 น. นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ประชุมร่วมหารือความร่วมมือทวิภาคี ระหว่าง กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม กับ สำนักฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมและวัฏจักรของวัสดุ กระทรวงสิ่งแวดล้อม ประเทศญี่ปุ่น เพื่อพัฒนาแนวคิด นวัตกรรม ที่เหมาะสมต่อการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ สู่การหมุนเวียนทรัพยากรและการจัดการของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมี Mr. Satoshi Yoshida Director for International Resource Circulation กระทรวงสิ่งแวดล้อม ประเทศญี่ปุ่น Ms. Osawa Yurie เลขานุการเอก สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย นางสาวปัทมวรรณ คุณประเสริฐ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมโรงงาน เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่กระทรวงสิ่งแวดล้อมประเทศญี่ปุ่น และ เจ้าหน้าที่สถาบัน EX Research Institute หรือ EXRI ASIA (ประเทศญี่ปุ่น) เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 503 ชั้น 5 อาคารกรมโรงงานอุตสาหกรรม และประชุมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์

การประชุมในครั้งนี้ เป็นการหารือเกี่ยวข้องกับการจัดการซากอิเล็กทรอนิกส์ หรือ WEEE (Waste from Electrical and Electronic Equipment) ของประเทศไทย ซึ่งกรมโรงงานอุตสาหกรรมถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยขับเคลื่อนการดำเนินการนี้โดยกระทรวงสิ่งแวดล้อมประเทศญี่ปุ่นพร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ทางด้านข้อกฎหมาย ความรู้ทางวิชาการ และเทคนิคสำหรับการจัดการซากอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงเทคโนโลยีรีไซเคิลต่างๆ สำหรับการจัดการซากอิเล็กทรอนิกส์ โดยความร่วมมือนี้จะมีขึ้นในลำดับต่อไป หลังจากหารือกับหน่วยงานอื่นๆ

ในการนี้ นายจุลพงษ์ ได้ร่วมแสดงความเห็นต่อการแผนการดำเนินงาน พร้อมเห็นด้วยกับแนวทางการจัดการซากอิเล็กทรอนิกส์ในบริบทของกรมโรงงานอุตสาหกรรม  และพร้อมบูรณาการงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

#กรมโรงงานอุตสาหกรรม #กรมโรงงาน #กรอ #กระทรวงอุตสาหกรรม #DIW #MIND #WEEE #ซากอิเล็กทรอนิกส์ #รีไซเคิล #EXResearchInstitute #EXRI #กระทรวงสิ่งแวดล้อมญี่ปุ่น

ที่มา : กรมโรงงานอุตสาหกรรม

การก้าวไปสู่ระบบ Smart Mainteannce – มุ่งหน้าสู่อุตสากรรม 4.0

0
การก้าวไปสู่ระบบ Smart Mainteannce - มุ่งหน้าสู่อุตสากรรม 5.0

“การบำรุงรักษาอัจฉริยะ” หรือ “Smart Maintenance” หมายถึงการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง และกลยุทธ์ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบำรุงรักษาอุปกรณ์และระบบ โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีต่างๆ เช่น Internet of Things (IoT), ปัญญาประดิษฐ์ (AI), การเรียนรู้ของเครื่อง (ML), การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และเทคนิคการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ (Predictive Mainteannce) เพื่อตรวจสอบอุปกรณ์แบบเรียลไทม์ ตรวจจับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นก่อนที่จะเกิดขึ้น และกำหนดเวลา กิจกรรมการบำรุงรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น

ส่วนประกอบสำคัญของการบำรุงรักษาอัจฉริยะ ได้แก่

1. ระบบ IIoT Sensor

IIoT หรือ Industrial IoT ย่อมาจาก Industrial Internet of Things คือ การเชื่อมต่อเครื่องจักรและระบบอุตรสาหกรรมเข้ากับเครือข่าย (ซึ่งอาจจะเป็น internet) เพื่อที่จะนำเอาข้อมูลมา เฝ้าดู ประมวลผล และวิเคราะห์เพื่อที่จะเพิ่มประสิทธิภาพ, เพิ่มผลผลิตและลดค่าใช้จ่าย 

Things ใน Industrial IoT เป็นเครื่องจักรที่มีองค์ประกอบเป็น เซนเซอร์ (Sensor) เพื่อเก็บข้อมูลในเชิง Physical เข้ามา เช่น ความดัน อุณหภูมิ หรือการสั่นสะเทือนเป็นต้น, ชุดควบคุม (Controller) ที่เปรียบเสมือนสมองในการเอาข้อมูลจำนวนมหาศาลมาคิดคำนวน และสั่งการต่อไป, ชุดเครื่องจักร เปรียบเสมือน Actuator ที่จะทำงานในฟังก์ชั่นของเค้า ซึ่งเป้าหมายของระบบ IIoT คือ การเอาข้อมูลในกระบวนการผลิต (Utilize Manufacturing Data) มาใช้เพื่อที่จะปรับปรุงกระบวนการผลิตให้ดี, มีประสิทธิภาพหรือผลผลิตที่เพิ่มขึ้นและประหยัดค่าใช้จ่ายนั้นเอง

อ่านบทความเต็ม : Industrial Internet Of Things (IIoT) คือะไร?

2. การประยุกต์ใช้ Big Data

การวิเคราะห์ และประยุกต์ใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ Big Data คือการนำข้อมูลจำนวนมากที่รวบรวมจากเซ็นเซอร์ IIoT และแหล่งที่มาอื่นๆ ได้รับการวิเคราะห์ ซึ่งอาจจะผ่านโมเดล ML หรือ AI เพื่อระบุแนวโน้ม ความผิดปกติ และความล้มเหลวที่อาจเกิดขึ้นกับเครื่องจักรในโรงงาน

อ่านเพิ่มเติม : Bigdata และ AI คืออะไร ? และนำไปใช้ประโยชน์อะไรในอุตสาหกรรม

3. การบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ (Predictive Maintenance)

การบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ หรือ Predictive Maintenance คือการใช้โมเดลในการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยระบบเทคโนโลยี Artificial Intelligence (AI) และ Machine Learning (ML) จากอัลกอริธึมการเรียนรู้ของเครื่องเพื่อคาดการณ์ว่าเมื่อใดจะต้องบำรุงรักษาอุปกรณ์ตามข้อมูลในอดีตและสภาวะปัจจุบัน ซึ่งช่วยลดเวลาหยุดทำงาน (Downtime) ต้นทุน (Cost) และเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด

อ่านบทความ : การบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ PdM (Predictive Maintenance)

4. การใช้ระบบ Real-Time Condition Monitoring

ระบบ Real-Time Condition Monitoring คือการที่เราตรวจสอบสภาพการใช้งานเครื่องจักร ณ เวลานั้นจริงๆ ผ่านระบบ IIoT ทำให้เราสามารถเฝ้าระวัง หรือติดตามการทำงานของเครื่องจักรในระบบการผลิตอย่างต่อเนื่อง และเป็นเวลาขณะนั้นจริงๆ เพื่อตรวจจับ ประสิทธิภาพการทำงาน สัญญาณการสึกหรอ การเสื่อมสภาพ หรือการทำงานผิดปกติในระยะเริ่มต้น

อ่านบทความตัวอย่างของการประยุกต์ใช้ ระบบ Real-Time Condition Monitoring : [เทคโนโลยี] “Wireless Online Vibration Monitoring” และการตรวจจับความเสียหายของเครื่องจักร

5. การตรวจสอบและควบคุมระยะไกล (Remote Monitoring and Control)

การตรวจสอบและควบคุมระยะไกล หรือ Remote Monitoring Control คือ ความสามารถในการตรวจสอบ และควบคุมอุปกรณ์จากระยะไกล ช่วยให้ตอบสนองต่อปัญหาได้เร็วขึ้น และลดความจำที่จะต้องใช้คนทำงาน เข้าไปทำงานในการตรวจสอบ หรือเข้าไปสั่งการเครื่องจักรในพื้นที่การผลิต ทำให้การทำงานเป็นไปอย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

6. ระบบการทำงานอัตโนมัติ (Automation System)

ระบบอัตโนมัติ หรือ Automation System คือ ระบบที่ทำให้งานบำรุงรักษา หรือการผลิตในโรงงานแบบปกติ ทำงานได้อย่างเป็นอัตโนมัติ ผ่านชุดควบคุมที่ได้เรียนรู้ข้อมูลจาก Big data มาแล้ว ซึ่งในส่วนของ Maintenance จะหมายถึงกระบวนการเตรียมงานในส่วนของ Planning เช่น การออกตารางการบำรุงรักษา โดยผูกเงื่อนไขเข้ากับตารางการผลิต หรือคุณภาพของเครื่องจักร (Realtime Condition-Based)เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานโดยรวม

7. การทำ Data Integration and Visualization

หัวข้อนี้อาจจะขอทับศัพท์ “Data Integration and Visualization” นะครับ ซึ่งจริงๆก็คือการที่เรารวมข้อมูลเป็นหนึ่งเดียวกันผ่านระบบเพียงระบบเดียว และการแสดงภาพรวมให้เข้าถึงได้ง่ายๆ ด้วยการรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ และนำเสนอในลักษณะที่มีความหมายและนำไปปฏิบัติได้สำหรับทีมบำรุงรักษาและทีมผลิตนั่นเองครับ

ตัวอย่าง DashBoard สำหรับการดูค่า Vibration Monitoring ในเครื่องจักร @Credited by Factorium

โดยสรุปรวมแล้ว การบำรุงรักษาอัจฉริยะมีเป้าหมาย “เพื่อปรับปรุงความน่าเชื่อถือของอุปกรณ์ ลดต้นทุนการบำรุงรักษา ยืดอายุสินทรัพย์ และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน” โดยรวมผ่านแนวทางเชิงรุกและขับเคลื่อนด้วยข้อมูลนะครับ

=========================================

หากใครสนใจงานสัมนาดีๆที่ฟรี และได้ความรู้ในด้าน Smart Maintenance, Smart Energy Management และ Industrial IoT ก็สามารถเข้าไปลงทะเบียนร่วมงานได้ตามลิ้งค์ด้านล่างในงาน Murata MEGA Conference ไดเลยนะครับผม

=========================================

แล้วพบกับสาระดีๆแบบนี้ทางด้านงานช่าง งานวิศวกรรม และอุตสาหกรรมได้ที่ นายช่างมาแชร์ นะครับ

Website: www.naichangmashare.com
Facebook: https://www.facebook.com/naichangmashare/
Blockdit :  https://www.blockdit.com/naichangmashare
Instragram: https://www.instagram.com/naichangmashare/
Twitter: https://twitter.com/naichangmashare
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCmIPiSeg-uy4k8JYSmknp_g

#นายช่างมาแชร์ 

International Engineering Expo 2024 & Asean Tools Expo 2024

0
INTERNATIONAL ENGINEERING EXPO & ASEAN TOOLS 2024
INTERNATIONAL ENGINEERING EXPO & ASEAN TOOLS 2024

งาน “International Engineering Expo 2024” หรือ งานวิศวกรรมแห่งชาติ 2567 งานเดียวแห่งอาเซียนที่ร่วมจัดโดย วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ภายใต้แนวคิด การขับเคลื่อนวิศวกรรมไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืน (Driving Sustainability Responsiveness) ปีนี้จัดร่วมกับ งาน ASEAN Tools Expo 2024 งานแสดงนวัตกรรม เครื่องมือ และอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์ทุกงานช่าง ครั้งยิ่งใหญ่ในประเทศไทย

งานแสดงเทคโนโลยีและการประชุมวิชาการด้านวิศวกรรมนานาชาติที่ครอบคลุมมากที่สุด สำหรับงานนี้ ไม่ว่าคุณจะเป็นช่างแบบไหน หรือเป็นนักธุรกิจด้านเครื่องมือช่าง งานนี้เหมาะที่สุดสำหรับคุณ เป็นงานเดียวที่ตอบโจทย์ทุกงานช่าง!

ภายใน งาน “International Engineering Expo 2024” หรือ งานวิศวกรรมแห่งชาติ 2567 มีสัมมนาที่ครอบคลุมทุกสาขาด้านวิศวกรรมกว่า 72

งานจัดวันที่ 24 – 26 กรกฎาคม 2567 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ห้องบอลลูม ชั้น 1 เวลา 10.00 – 18.00 .

หัวข้อ จากผู้เชี่ยวชาญชั้นนำ อัดแน่น จัดเต็ม ตลอดทั้ง 3 วัน ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้ PDU พร้อมรับ e-Certificate ภายในงาน

งานนี้เข้าฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ลงทะเบียนชมงานล่วงหน้า ได้ที่ถึงวันที่ 23 กค –> https://ienxpo.rg.in.th/registration/ และ https://evcnx.co/AST24

รายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติมสามารถดูได้จากเว็บไซต์ และ Facebook : IENXPO 2024 และ Aseantoolsexpo

แล้วพบกับสาระดีๆแบบนี้ทางด้านงานช่าง งานวิศวกรรม และอุตสาหกรรมได้ที่ นายช่างมาแชร์ นะครับ

Website: www.naichangmashare.com
Facebook: https://www.facebook.com/naichangmashare/
Blockdit :  https://www.blockdit.com/naichangmashare
Instragram: https://www.instagram.com/naichangmashare/
Twitter: https://twitter.com/naichangmashare
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCmIPiSeg-uy4k8JYSmknp_g

#นายช่างมาแชร์ 

Industrial Internet Of Things (IIoT) คือะไร?

0
Industrial Internet Of Things (IIoT) คือะไร?
Industrial Internet Of Things (IIoT) คือะไร?

วันนี้ทางนายช่างมาแชร์จะขอมาแชร์อีกเทคโนโลยีที่กำลังเป็นกระแสมากๆในโรงงานอุตสาหกรรมกันนะครับ นั่นคือ IIoT หรือ Industrial Internet of Things ซึ่งจริงแล้วๆมันก็คือ IoT ที่พัฒนาต่อยอกให้แข็งแรงสามารถใช้กับงานหนักๆในอุตสาหกรรมได้นั่นเองครับ โดยระบบนี้ก็คือการเชื่อมต่อเครื่องจักร ระบบ และคนทำงานเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียวกันนั้นเองครับ ซึ่งหากโรงงานไหนทำสำเร็จรับประกันได้เลยว่า กำไร บริษัทเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลแน่นอนครับ

ระบบ IIoT คืออะไร ?

IIoT หรือ Industrial IoT ย่อมาจาก Industrial Internet of Things คือ การเชื่อมต่อเครื่องจักรและระบบอุตรสาหกรรมเข้ากับเครือข่าย (ซึ่งอาจจะเป็น internet) เพื่อที่จะนำเอาข้อมูลมา เฝ้าดู ประมวลผล และวิเคราะห์เพื่อที่จะเพิ่มประสิทธิภาพ, เพิ่มผลผลิตและลดค่าใช้จ่าย 

Things ใน Industrial IoT เป็นเครื่องจักรที่มีองค์ประกอบเป็น เซนเซอร์ (Sensor) เพื่อเก็บข้อมูลในเชิง Physical เข้ามา เช่น ความดัน อุณหภูมิ หรือการสั่นสะเทือนเป็นต้น, ชุดควบคุม (Controller) ที่เปรียบเสมือนสมองในการเอาข้อมูลจำนวนมหาศาลมาคิดคำนวน และสั่งการต่อไป, ชุดเครื่องจักร เปรียบเสมือน Actuator ที่จะทำงานในฟังก์ชั่นของเค้า ซึ่งเป้าหมายของระบบ IIoT คือ การเอาข้อมูลในกระบวนการผลิต (Utilize Manufacturing Data) มาใช้เพื่อที่จะปรับปรุงกระบวนการผลิตให้ดี, มีประสิทธิภาพหรือผลผลิตที่เพิ่มขึ้นและประหยัดค่าใช้จ่ายนั้นเอง

Murata Electronics Gear up for your Advancement (MEGA)
 
Making Smart Moves with Adaptive Maintenance & Energy Efficiency

ส่วนประกอบของระบบ IoT หรือ Internet of Things 

ส่วนประกอบของ Internet of Things (IoT) จะแบ่งออกได้เป็น 4 องค์ประกอบหลัก ได้แก่

1.อุปกรณ์ Smart Object IoT 

อุปกรณ์ Smart Object IoT หรือ IoT Device เป็นหัวใจหลักของระบบการเชื่อมต่อเลยนะครับ ซึ่งหากไม่มีอุปกรณ์ชิ้นนี้ ระบบ IoT จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย ซึ่งตัวอุปกรณ์อาจจะพูดรวมในส่วนของทั้ง ตัวรับค่า (Sensor) ที่ทำหน้าที่รับข้อมูลมาเช่น ความดัน อุณหภูมิ ระดับ หรือภาพต่างๆ , แอกชูเอเตอร์ (Actuator) จะสามารถเป็นได้อุปกรณ์สั่งการต่อไปยังเครื่องจักร หรืออุปกรณ์ของเรา หลังจากได้รับข้อมูลจากเซนเซอร์มาผ่านการคำนวนผลด้วยมีหน่วยประมวลผลขนาดเล็ก (Processor Unit) และจะมีการส่งสัญญาณผ่าน (Transceiver) เพื่อใหเกิดการเชื่อมต่อของอุปกรณ์ 

ภาพตัวอย่าง Sensor แบบต่างๆในระบบ IoT Credited https://iot4beginners.com

2. อุปกรณ์เกตเวย์ (Gateway)

จะเป็นอุปกรณ์อีกประเภทที่จะเป็น “ตัวกลางเชื่อมโยงในการส่งผ่านคำสั่งการจากอุปกรณ์ IoT ไปยังอุปกรณ์เป้าหมายที่ต้องรับคำสั่งเพื่อทำตาม” โดยผ่านการสื่อสารระหว่างเครือข่ายโดยใช้โปรโตคอลต่างๆ เช่น MQTT , CoAP เป็นต้นครับผม

สามารถตามไปอ่านบทความ : เทคโนโลยีการส่งสัญญาณแบบไร้สายในระบบ IoT เพื่อดูลักษณะการส่งสัญญาณสื่อสารแต่ละรูปแบบนะครับ

ภาพตัวอย่างของ IoT Gateway Credited by Advantach

3. เครื่องบริการ Server / Broker / Data System

หลังจากที่เราได้รับข้อมูลต่างๆผ่านทาง IoT Device ซึ่งส่งผ่านจากทาง Gateway มาแล้ว จะมีการนำข้อมูลเหล่านั้นมาเก็บไว้ที่ๆนึง ซึ่งอาจจะเป็น Offline Server (อาจจะเป็นคอมพิวเตอร์เครื่องนึงที่มาพร้อมกับหน่วยเก็บข้อมูล HHD, SSD ก็ได้ครับ) , Cloud Data Platform จากนั้นก็สามารถนำข้อมูลเหล่านั้นไปประมวลผล คำนวน หรือแม้กระทั่งพวก BigData , Machine Learning, AI ต่างๆครับ

ภาพตัวอย่าง IoT Server Credited by Advantach

4. อุปกรณ์ฝั่งผู้ใช้งาน (User Device)

เป็นส่วนของอุปกรณ์ที่จะใช้แสดงผลสถานะ หรือ Dash Board จากอุปกรณ์ IoT ทั้งหมดที่อยู่ในวงเครือข่าย เพื่อดูระบบโดยภาพรวมของระบบ IoT ครับ เช่น อาจจะมีการแสดงสถานะเครื่องจักร ว่าทำงานที่สถานะอะไรบ้าง ? หรือ ค่า KPI ต่างๆ ที่ถูกติดตั้งไว้

ตัวอย่าง DashBoard สำหรับการดูค่า Vibration Monitoring ในเครื่องจักร @Credited by Factorium

ประโยชน์ของระบบ IIoT

อย่างที่เกริ่นไปนะครับ หากโรงงานสามารถพัฒนาระบบ IIoT ในอุตสาหกรรมที่สามารถใช้ได้จริงและมีประสิทธิภาพ จะช่วยให้เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน, เพิ่มผลผลิต, ลดของเสีย และลดต้นทุน โดยที่อีกหนึ่งฟังก์ชั่นที่มาแรงมากๆ จาก IIoT ที่ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิต คือ ช่วยให้สามารถบำรุงรักษาที่คาดการณ์ล่วงหน้า (Predictive maintenance)ได้ สามารถดูสถานะของเครื่องจักร (Monitor) แบบ Real Time ที่สร้างจากระบบ IIoT

โดยใช้ฟังค์ชั่นของ AI, ML มาวิเคราะห์ข้อมูลร่วมด้วย เพื่อคาดการณ์ให้มีความแม่นยำมากขึ้น “ว่าเมื่อไหร่ที่เครื่องจักรจะต้องได้รับการซ่อมบำรุง” ด้วยวิธีนี้เครื่องจักรก็จะถูกแก้ไขก่อนที่จะเกิดความเสียหายใหญ่หลวง และเป็นการลดค่า Downtime ถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมากในไลน์การผลิต ซึ่งความเสียหายของเครื่องจักรอาจส่งผลให้กระบวนการผลิตต้องหยุด และสูญเสียค่าใช้จ่ายสูงมากๆเลยนะครับ

=========================================

หากใครสนใจงานสัมนาดีๆที่ฟรี และได้ความรู้ในด้าน Smart Maintenance, Smart Energy Management และ Industrial IoT ก็สามารถเข้าไปลงทะเบียนร่วมงานได้ตามลิ้งค์ด้านล่างในงาน Murata MEGA Conference ไดเลยนะครับผม

Murata Electronics Gear up for your Advancement (MEGA)
 
Making Smart Moves with Adaptive Maintenance & Energy Efficiency

=========================================

แล้วพบกับสาระดีๆแบบนี้ทางด้านงานช่าง งานวิศวกรรม และอุตสาหกรรมได้ที่ นายช่างมาแชร์ นะครับ

Website: www.naichangmashare.com
Facebook: https://www.facebook.com/naichangmashare/
Blockdit :  https://www.blockdit.com/naichangmashare
Instragram: https://www.instagram.com/naichangmashare/
Twitter: https://twitter.com/naichangmashare
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCmIPiSeg-uy4k8JYSmknp_g

#นายช่างมาแชร์ 

ภาคผลิตอุตสาหกรรมกลับมา -2.1% ทำการฟื้นตัวรายได้ไม่เท่าเทียม

0
ภาคผลิตอุตสาหกรรมกลับมา -2.1% ทำการฟื้นตัวรายได้ไม่เท่าเทียม
ภาคผลิตอุตสาหกรรมกลับมา -2.1% ทำการฟื้นตัวรายได้ไม่เท่าเทียม

วันที่ 2 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วิจัยกรุงศรี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ระบุว่า เศรษฐกิจในเดือนพฤษภาคมได้แรงหนุนจากการเติบโตของภาคท่องเที่ยวและการใช้จ่ายภาครัฐที่เร่งตัวขึ้น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานเศรษฐกิจโดยรวมในเดือนพฤษภาคมยังอยู่ในทิศทางฟื้นตัวแม้ชะลอลงบ้างจากเดือนก่อน

นำโดยกิจกรรมในภาคบริการที่ปรับดีขึ้นตามการเพิ่มขึ้นของทั้งรายรับจากการท่องเที่ยว (+4.1% MoM sa) และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ (+9.2%) ประกอบกับการใช้จ่ายของภาครัฐทั้งรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุนขยายตัวเร่งสูงขึ้น ภายหลัง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2567 มีผลบังคับใช้เมื่อปลายเดือนเมษายน ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย (+0.3%) ส่วนการลงทุนภาคเอกชนพลิกกลับมาหดตัวจากเดือนก่อน (-3.0%) เช่นเดียวกับมูลค่าการส่งออกสินค้าไม่รวมทองคำ (-1.7%) และการผลิตภาคอุตสาหกรรม (-0.6%)

จากเครื่องชี้เศรษฐกิจในช่วงสองเดือนแรกของไตรมาส 2 ปีนี้แม้มีแนวโน้มทยอยฟื้นตัวแต่ยังมีความไม่เท่าเทียมกันในแต่ละภาคส่วน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากปัจจัยเชิงโครงสร้างที่กดดันภาคการผลิต การลงทุน และการบริโภค โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้การฟื้นตัวส่วนใหญ่ยังได้รับแรงหนุนจากปัจจัยเชิงวัฏจักร (Cyclical factor) ตามการเติบโตของภาคท่องเที่ยวและการเร่งขึ้นของการลงทุนภาครัฐที่จะมีบทบาทมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม การส่งออกของไทยที่มีแนวโน้มเติบโตต่ำท่ามกลางความสามารถในการแข่งขันที่ลดลง อาจส่งผลกระทบต่อการจ้างงานและรายได้ของแรงงานในภาคการผลิต ซึ่งเป็นปัจจัยลบซ้ำเติมต่อการบริโภคของภาคเอกชนที่ประสบกับปัญหาเชิงโครงสร้างจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง

การผลิตภาคอุตสาหกรรมแม้อาจผ่านจุดต่ำสุดแล้วแต่การฟื้นตัวยังเปราะบางเนื่องจากปัญหาเชิงโครงสร้าง สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมรายงานดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพฤษภาคมพลิกกลับมาหดตัวที่ -1.5% YoY ผลจากการผลิตที่ปรับลดลงในอุตสาหกรรมหลัก

อาทิ 1.ยานยนต์ การผลิตหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 ตามกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว และสถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ 2.ชิ้นส่วนและแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ และ 3.คอนกรีต ปูนซีเมนต์ และปูนปลาสเตอร์ เนื่องจากลูกค้ายังมีสต๊อกสูงจึงชะลอคำสั่งซื้อ ทั้งนี้ ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเฉลี่ยอยู่ที่ -2.1%

การกลับมาหดตัวของดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนพฤษภาคม หลังจากเดือนเมษายนที่ขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 19 เดือน ที่ 3.4% สะท้อนถึงการผลิตภาคอุตสาหกรรมไทยแม้อาจผ่านจุดต่ำสุดแล้วแต่การฟื้นตัวยังเปราะบาง ทั้งนี้ ธปท.ชี้ว่าการฟื้นตัวของแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมจะไม่เท่ากันเนื่องจากปัจจัยเชิงวัฏจักรและปัจจัยเชิงโครงสร้าง โดยกลุ่มที่ได้รับผลจากปัจจัยเชิงวัฏจักรมีสัญญาณเชิงบวกตามอุปสงค์ที่ฟื้นตัว อาทิ อาหารและเครื่องดื่ม ปิโตรเลียม และเครื่องปรับอากาศ

ขณะที่กลุ่มยานยนต์ได้รับผลทั้งจากปัจจัยเชิงวัฏจักรและเชิงโครงสร้าง จากกระแสความต้องการรถยนต์ EV มากขึ้น แต่มีการแข่งขันที่รุนแรง และสำหรับกลุ่มที่มีปัญหาเชิงโครงสร้างคาดว่าจะยังฟื้นตัวได้ช้า อาทิ HDD, สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ปิโตรเคมี และเหล็กขั้นมูลฐานนอกจากนี้ การฟื้นตัวของแต่ละภาคการผลิตที่ไม่เท่ากันจะส่งผลต่อการฟื้นตัวของรายได้ของแรงงานในแต่ละกลุ่มต่างกัน โดยในภาคการผลิตมีแรงงานราว 6.3 ล้านคน หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 16% ของแรงงานทั้งหมด

ข่าวที่มา : https://www.prachachat.net/finance/news-1598671

ทำไมต้องใช้สัญญาณ 4-20 mA ด้วยหละ?

0
ทำไมต้องสัญญาณ 4-20 mA ด้วยหละ?
ทำไมต้องสัญญาณ 4-20 mA ด้วยหละ?

เบื้องต้นขอเกริ่นๆเบื้องต้นก่อนนะครับ สำหรับสัญญาณ หรือ Signal 4-20mA  คือ สัญญาณที่ “กระแสไฟที่ถูกนำมาใช้เป็นมาตรฐานสำหรับส่งสัญญาณของเครื่องมือวัด” ในอุตสาหกรรม โดยเป็นที่นิยมและแพร่หลายมากๆในปัจจุบัน โดยจุดกำเนินเริ่มต้นกำเนิดขึ้นในช่วงยุคปี ค.ศ. 1950 (พ.ศ. 2493)  โดยหลักการทำงานคือสัญญาณจะถูกส่งเป็นแบบเส้นตรง (Linear) ตัวอย่างเช่น เครื่องมือวัดที่มีช่วงการวัด 0-100 % ในตำแหน่งที่ 0 % เครื่องมือวัดจะส่งสัญญาณออกไป 4 mA และที่ตำแหน่ง 100 % เครื่องมือวัดจะส่งสัญญาณออกไป 20 mA ตามภาพตัวอย่างด้านล่างนี้นะครับ

ขอบคุณภาพดีๆจากทาง Instrumentiontools.com นะครับ

เหตุผลที่ต้องใช้ 4-20mA

แต่ก็มีคำถามมาบ่อยๆว่า..ทำไม? ถึงต้องเป็นเลข 4-20 mA ด้วยหละ ไม่เป็น 0-16 mA หรือ 2-18 mA ด้วยหละ ?? ยิ่งความเป็นนายช่างเราก็ไม่สามารถเก็บคำถามเหล่านี้กันครับ ขอสรุปสั้นๆเลยนะครับ โดย

1. ถ้าเกิดเราเลือก 0 เป็นจุดเริ่มต้น เมื่อเครื่องมือวัดเองมีความผิดปกติ หรือสายสัญญาณที่ส่งค่ามีปัญหา เราจะไม่รู้ว่าตัวไหนมีปัณหา

2. เหตุผลที่ต้องเริ่มที่ 4 mA สำหรับบางอุปกรณ์ เช่น Transmitter ประเภท 2 wire จำเป็นต้องมีไฟเลี้ยง โดยสามารถทำงานได้ตั้งแต่กระแส 3.5 mA ขึ้นไป (แสดงว่าถ้าเริ่มตัวเลขกลมๆ ควรเป็นที่ 4 นั่นเอง ^^)

3.สำหรับในตำแหน่ง 100% เหตุผลคือ กระแสสูงสุดในวงจร คือ 20 mA เป็นกระแสที่ไม่เป็นอันตรายร้ายแรงต่อมนุษย์ ซึ่งเป็นค่าที่มีความปลอดภัยต่คนทำงานได้นั่นเอง

4. สาเหตุที่ใช้กระแส (Current) ในการส่งสัญญานแทนที่จะเป็นแรงดันไฟฟ้า (Voltage) 1-5 V  นั้นก็เพราะว่า แรงดันไฟฟ้าเมื่อส่งระยะไกลๆ จะเกิดแรงดันตกคร่อม (Voltage Drop) แรงดันไฟฟ้าที่ส่งมาอาจจะไม่ใช่ค่าการวัดที่ถูกต้อง

5. สัญญาณกระแส (Current) 4-20 mA สามารถทนต่อสัญญาณรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnatic) ได้ดีกว่าการใช้สัญญาณแรงดันไฟฟ้า (Voltage) (1-5 V)

ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงดีๆ จากทาง : เด็กช่างวัด และ OMEGA นะครับ

แล้วพบกับสาระดีๆแบบนี้ทางด้านงานช่าง งานวิศวกรรม และอุตสาหกรรมได้ที่ นายช่างมาแชร์ นะครับ

Website: www.naichangmashare.com
Facebook: https://www.facebook.com/naichangmashare/
Blockdit :  https://www.blockdit.com/naichangmashare
Instragram: https://www.instagram.com/naichangmashare/
Twitter: https://twitter.com/naichangmashare
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCmIPiSeg-uy4k8JYSmknp_g

#นายช่างมาแชร์ 

แบตเตอรี่ในจีนประกาศความสำเร็จ ในการพัฒนาแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานกับเครื่องบินขนาด 4 ตัน

0
แบตเตอรี่ในจีนประกาศความสำเร็จ ในการพัฒนาแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานกับเครื่องบินขนาด 4 ตัน
แบตเตอรี่ในจีนประกาศความสำเร็จ ในการพัฒนาแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานกับเครื่องบินขนาด 4 ตัน

สำหรับแบตเตอรรี่เราอาจจะคิดถึงสำหรับ EV Car ซะเป็นส่วนใหญ่ แต่งานนี้ทางบริษัท Contemporary Amperex Technology Co Ltd (CATL) ในจีน ซึ่งเป็นรถยนต์ EV อันดับ 1 ของโลก ซึ่งสามารถคิดค้นแบตเตอร์รี่ที่สามารถใช้กับเครื่องบินหนักถึงขนาด 4 ตันได้!! โดยมีข้อมูลออกว่าเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า แบตเตอร์รี่ของเครื่องบินโดยสารไฟฟ้าที่ถูกติดตั้ง ซึ่งสามารถรองรับระยะทางการบินได้ 2,000 ถึง 3,000 กิโลเมตรนั้น และจะสามารถพร้อมใช้งานภายในปี 2027 หรือ 2028

1 แบตเตอรี่ในจีนประกาศความสำเร็จ ในการพัฒนาแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานกับเครื่องบินขนาด 4 ตัน
แบตเตอรี่ในจีนประกาศความสำเร็จ ในการพัฒนาแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานกับเครื่องบินขนาด 4 ตัน

โดยทาง Zeng Yuqun ผู้ก่อตั้ง CATL กล่าวว่า บริษัทได้ทำการทดสอบแบตเตอร์รี่กับเครื่องบินพลเรือนขนาด 4 ตันไปแล้ว โดยตัวอย่างแบตเตอรี่และผลิตภัณฑ์จากไลน์การผลิต ได้ถูกนำไปติดตั้งบนเครื่องบินจริงๆแล้ว นอกจากนี้ในเฟสถัดไปยังเตรียมพัฒนาเครื่องบินไฟฟ้าขนาด 8 ตัน ซึ่งคาดว่าจะสามารถที่จะเปิดตัวภายในปี 2027 หรือ 2028 เหมือนกันอีกด้วย ซึ่งสเปกของแบตเตอรี่ดังกล่าวมีค่าพลังงานสูงถึง 500 Wh/kg โดยสามารถให้ทั้งพลังงานที่สูงและความปลอดภัยในระดับที่ยอดเยี่ยมเลยนะครับ

ขอบคุณที่มาจาก : https://www.chinadaily.com.cn/a/202406/25/

นวัตกรรม “ต้นไม้จักรกล”ใหม่ประสิทธิภาพเหนือกว่าต้นไม้จริงถึง 1,000 เท่า

0
นวัตกรรม "ต้นไม้จักรกล"ใหม่ประสิทธิภาพเหนือกว่าต้นไม้จริงถึง 1,000 เท่า
นวัตกรรม "ต้นไม้จักรกล"ใหม่ประสิทธิภาพเหนือกว่าต้นไม้จริงถึง 1,000 เท่า

วันนี้ทางนายช่างก็ขอมาแชร์อีกเทคโนโลยีที่น่าสนใจมากๆ และอาจจะเป็นทางเลือกในอนาคต อย่าง “ต้นไม้จักรกล” หรือ “Mechanical Tree” กันนะครับ โดยเทคโนโลยีนี้จะคล้ายคลึงกับข้อดีของต้นไม้จริงๆเลย คือ สามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ในโมเลกุลของอากาศ แต่ความสามารถของนวัตกรรมต้นไม้จักรกลคือ “มีประสิทธิภาพมากกว่าต้นไม้จริงถึง 1,000 เท่า” เลยทีเดียว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการแก้ไขปัญหาโลกร้อนที่ทวีความรุนแรงขึ้นทุกวันนี้นั่นเองครับ

โดยโครงการดีๆแบบนี้นี้เป็นผลงานจากความร่วมมือระหว่าง “บริษัท คาร์บอน คอลเลค (Carbon Collect Co.,Ltd) และทางอาจารย์ Klaus Lackner ศาสตราจารย์วิชาวิศวกรรมจากมหาวิทยาลัยรัฐแอริโซนา (ASU) ในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งใช้เวลากว่าถึง 20 ปีในการวิจัย ก่อนที่จะพัฒนาเป็นต้นไม้จักรกลที่กำลังอยู่ในช่วงทดสอบการใช้งานภายในมหาวิทยาลัยฯ 

ลักษณะของต้นไม้จักรกล หรือ Mechanical Tree

ต้นไม้จักรกลมีลักษณะเป็นคล้ายๆเสาสูงประมาณ 10 เมตร ที่มีความสามารถยืด และหดได้ มีแผ่นกรอง (Filter) ที่ทำหน้าที่ในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากอากาศ โดยประโยชน์คือทำให้ลดต้นทุนทางคาร์บอนเครดิตและเป็นไปได้ในเชิงพาณิชย์ และในอนาคตบริษัทยังมีแผนพัฒนาเทคโนโลยีให้สามารถดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 1,000 ตันต่อวัน (จาก 1 ตันในปัจจุบัน) *แต่ในปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนานะครับ*

แต่ข้อสังเกตุ คือแม้ว่าต้นไม้จักรกลจะไม่สามารถคายก๊าซออกซิเจน (O2) กลับออกมาได้เหมือนต้นไม้สีเขียวจริงๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านวัตกรรมต้นไม้จักรกลนี้มีแนวโน้มที่จะมีศักยภาพในการช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อน (Global Warming) ได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนในระยะยาว นะครับ

แล้วพบกับสาระดีๆแบบนี้ทางด้านงานช่าง งานวิศวกรรม และอุตสาหกรรมได้ที่ นายช่างมาแชร์ นะครับ

Website: www.naichangmashare.com
Facebook: https://www.facebook.com/naichangmashare/
Blockdit :  https://www.blockdit.com/naichangmashare
Instragram: https://www.instagram.com/naichangmashare/
Twitter: https://twitter.com/naichangmashare
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCmIPiSeg-uy4k8JYSmknp_g

#นายช่างมาแชร์ 

สัมมนาฟรี! เข้าร่วม Murata MEGA Conference 2 เพื่อพัฒนาโรงงานของคุณ

0
Free seminar! Attend Murata MEGA Conference 2 for enhancing your factory!

Free seminar! Attend Murata MEGA Conference 2 for enhancing your factory!


กลับมาอีกครั้งกับงาน “Murata MEGA Conference Series 2” งานสัมมนาที่วิศวกรเครื่องกล ช่างซ่อมบำรุง ผู้จัดการ และผู้ประกอบการโรงงานไม่ควรพลาด! ครั้งนี้เรามาในธีม “Making Smart Move with Adaptive Maintenance & Energy Efficiency” พร้อมกับเนื้อหาและข้อมูลที่จะพาคุณเข้าสู่โลกแห่งการทำ Smart Maintenance & Smart Energy Management พร้อมช่วงเสวนาเพื่อพูดคุยการทำ Smart Maintenance ผ่านมุมมองผู้ใช้จริง.

Murata Electronics Gear up for your Advancement (MEGA) เป็นงานที่จะช่วยเตรียมพร้อมสำหรับความก้าวหน้าของคุณในด้านการใช้นวัตกรรมที่ล้ำสมัยเพื่อเสริมศักยภาพโรงงานพร้อมขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยกันผ่านงานสัมนนา เราจะร่วมก้าวหน้าไปด้วยกัน ในวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2567 เวลา 09:00 น. – 15:30 น. ณ โรงแรมนิกโก้ อมตะซิตี้ ชลบุรี, จังหวัด ชลบุรี ในรูปแบบ On Ground

ครั้งนี้เราไม่ได้จัดเต็มแค่เนื้อหาในงานสัมมนาเท่านั้น แต่เรายังมาพร้อมกับบูธจัดแสดงสินค้าและบริการจากพาร์ทเนอร์ของเราอย่างมากมายที่คุณสามารถเข้าเยี่ยมชมนวัตกรรมใหม่ๆ และพูดคุยได้รวมถึงโอกาสได้รับคำปรึกษาแบบตัวต่อตัวกับผู้เชี่ยวชาญด้าน Smart Maintenance & Smart Energy Management อีกด้วย ทั้งนี้เรายังมีโปรโมชั่นพิเศษภายในงานพร้อมเต็มอิ่มกับบุฟเฟ่ต์นานาชาติ และช่วงลุ้นรับของรางวัลท้ายงานให้ได้ร่วมสนุกกันด้วย! 

อย่ารอช้า รีบลงทะเบียนเลย เพราะงานนี้ ฟรี!

Register page: https://www.murata.com/en-sg/events/2024/Megaconference2/register?excid=as_so-o_ow_if_mc2-na_202408

3 เหตุผลหลัก ทำไมไม่ควรพลาดงานนี้

เทรนด์ Smart Maintenance & Smart Energy Management​ ในปัจจุบันและอนาคตจะเป็นอย่างไร? ​Green industry มีบทบาทอย่างไรต่อวงการอุตสาหกรรม? วิธีที่จะช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจของคุณไปพร้อมกับรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างไร? งานนี้มีคำตอบให้คุณ!

ภาพรวมอุตสาหกรรม 4.0 จะไปในทิศทางไหน? เราได้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญในวงการเพื่อแชร์มุมมองอนาคต และอัปเดตวิธีการ นวัตกรรมและเทคโนโลยีล่าสุดที่จะช่วยให้โรงงานของคุณก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 อย่างเต็มรูปแบบจากผู้ที่มีประสบการณ์ในวงการ ช่วยให้คุณสามารถนำแนวคิดและข้อมูลไปใช้ในการพัฒนาโรงงานและการดูแลเครื่องจักรได้จริง! 

ถ้าจะเริ่มลงมือพัฒนาโรงงาน คุณจะทำอย่างไรได้บ้าง? มาเพิ่มพูนทักษะ องค์ความรู้ และนวัตกรรมด้านการทำ Smart Maintenance ผ่านมุมมองผู้ใช้จริง เพื่อทำความเข้าใจและเห็นภาพการบำรุงรักษาและปรับปรุงเครื่องจักรให้มีประสิทธิภาพอย่างชัดเจนยิ่งขึ้นผ่านช่วงเสวนาในงาน Murata MEGA Conference Series 2 รับรองว่างานนี้จะช่วยคุณเตรียมความพร้อมรับมือกับเทรนด์ที่เปลี่ยนไป และนำความรู้ไปต่อยอดในการทำงานได้จริง 

อย่ารอช้า รีบลงทะเบียนเลย เพราะงานนี้ ฟรี!

Register page: https://www.murata.com/en-sg/events/2024/Megaconference2/register?excid=as_so-o_ow_if_mc2-na_202408

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้ที่จำเป็น

    ยินยอมใช้ Cookie สำหรับการติดตามการใช้งานเวปไซท์ นายช่างมาแชร์ เพื่อปรับปรุงคุณภาพของเนื้อหาและบริการ

บันทึกการตั้งค่า