การกำหนดราคาคาร์บอน หรือ Carbon Pricing มีประโยชน์ต่ออุตสาหกรรม

0
การกำหนดราคาคาร์บอน หรือ Carbon Pricing มีประโยชน์ต่ออุตสาหกรรม
Concept,Of,Green,Co2,Tax.carbon,Tax,,Environmental,And,Social,Responsibility

นักเศรษฐศาสตร์พยายามผลักดันแนวคิด “การกำหนดราคาคาร์บอน (Carbon Pricing)” เพื่อให้ใช้เป็นมาตรฐานระดับโลก ตามที่ทางฝั่งยุโรปที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2005 ซึ่งสัมพันธ์โดยตรงกับภาวะโลกร้อน (Global Warming) โดยการลดภาวะโลกร้อนเราต้องยกเลิกใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลให้เร็วที่สุด แต่ทว่าการไปถึงจุดนั้นต้องทำอะไรบ้าง? และสัมพันธ์กับการกำหนดราคาคาร์บอนยังไง เราไปดูกันครับ

การกำหนดราคาคาร์บอน หรือ Carbon Pricing คืออะไร ?

การกำหนดราคาคาร์บอน หรือ carbon pricing คือ การพยายามคิดต้นทุนที่เกิดขึ้นจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยการประมาณจากต้นทุนที่ทำให้พืชพันธุ์ (Environment) เสียหาย ,ต้นทุนด้านสุขภาพ (Health) จากการที่เกิดคลื่นความร้อนและความแห้งแล้ง และการสูญเสียที่ดินเนื่องจากน้ำท่วมและระดับน้ำทะเลขึ้นสูง

สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่มีราคา และต้นทุนที่ต้องจ่ายทั้งสิ้น จึงมีการนำต้นทุนต่างๆเหล่านี้มาคิดคำนวณขึ้นเป็นในรูปแบบของ “ราคาคาร์บอนไดออกไซด์” ที่ถูกปล่อยออกมา เพื่อให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงต่อผู้ที่ต้องรับผิดชอบในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเป็นการส่งสัญญาณให้ตัดสินใจว่าควรจะปรับกิจกรรมเพื่อให้ลดการปล่อยคาร์บอนลง หรือจะปล่อยต่อและยอมเสียเงินต่อไป ?

ซึ่งกฏเกณฑ์นี้ได้มีการเริ่มใช้มาตั้งแต่ในปี 2005 โดยการเก็บเงินค่าปล่อยก๊าซเรือนกระจกนี้ จะมีประโยชน์ที่จะช่วยให้ตลาดสามารถระบุก๊าซเรือนกระจกต่อหน่วยที่ถูกที่สุดที่จะลดได้ แต่ว่าก็มีอีกกลุ่มที่เป็นกังวลกับแนวคิดนี้ เช่น นักการเมืองอเมริกันที่มองว่านโยบายนี้อาจจะส่งผลให้ต้นทุนที่ส่งผ่านไปยังผู้บริโภคนั้นสูงขึ้น ในสมัยของประธานาธิบดี โจ ไบเดน จึงทุ่มเงินนับหมื่นล้านดอลลาร์เพื่อฟื้นฟู supply chain ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแทน

ต้นทุนทางสิ่งแวดล้อมกลายเป็นเรื่องต้นทุนที่ธุรกิจต้องเผชิญ

การกำหนดราคาคาร์บอน หรือ Carbon Pricing เริ่มมีการนำไปปฏิบัติใช้ในหลายๆประเทศแล้ว ยกตัวอย่างเช่น อินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศที่ปล่อยมลพิษใหญ่เป็นอันดับที่ 9 ของโลก โดยกว่าครึ่งหนึ่งเป็นการใช้พลังงานถ่านหิน ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงโดยตลาดซื้อขายคาร์บอนเป็นที่เรียบร้อย และยังมีมาตรการซื้อขายคาร์บอนเครดิตสำหรับธุรกิจที่ปล่อยก๊าซในระดับที่สูงเกินเกณฑ์

แต่หลังจากนี้คาดว่าจะครอบคลุมขึ้นเรื่อย ๆ จากการที่หลายประเทศก็เริ่มเห็นประโยชน์ของการกำหนดราคาคาร์บอน

ต่อมาทางสหภาพยุโรปได้ออกนโยบายใหม่ภายใต้ชื่อ Carbon Border Adjustment Mechanism (CBAM) ที่กำหนดไว้ว่า ในปี 2026 จะเริ่มมีการคิดราคาคาร์บอนกับสินค้าที่นำเข้ามาในสหภาพยุโรป

ประเทศที่ตลาดคาร์บอนเริ่มมั่นคงแล้วก็จะดำเนินนโยบายของตนอย่างเข้มแข็งขึ้น ยกตัวอย่าง เช่น ประเทศจีนจะเริ่มเปลี่ยนจากการโฟกัสที่ความเข้มข้นของคาร์บอนที่โรงไฟฟ้าถ่านหินผลิตออกมา เป็นการโฟกัสทั้งเรื่องความเข้มข้น และมลพิษโดยรวมที่ปล่อยออกมา ซึ่งจะถูกนำไปเชื่อมโยงกับตลาดคาร์บอนเครดิต ที่จะให้เลือกว่าจะซื้อเครดิตสำหรับพลังงานหมุนเวียน ปลูกป่า หรือฟื้นฟูป่าชายเลน

โดยนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ทางโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ซึ่งคิดเป็น 28% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งประเทศ ต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงให้ได้ 4.9% หากใครทำไม่ได้ก็ต้องซื้อเครดิตชดเชย ซึ่งมีราคาอยู่ที่ 20 เหรียญต่อตัน มาตรการระหว่างประเทศ ซึ่งนำร่องโดยสหภาพยุโรป ที่จะมีการบังคับให้สินค้ากลุ่มอะลูมิเนียม ซีเมนต์ ไฟฟ้า ปุ๋ย ไฮโดรเจน เหล็กกล้า จะต้องรายงานการปล่อยก๊าซด้วย

แล้วหลังจากปี 2026 ผู้ที่นำเข้าสินค้าเข้ามาในสหภาพยุโรปจะต้องจ่ายภาษีเทียบเท่ากับส่วนต่างระหว่างต้นทุนการปล่อยคาร์บอนตามมาตรฐานสหภาพยุโรป และราคาคาร์บอนที่ผู้ส่งออกในประเทศนั้น ๆ เสีย ซึ่งในอนาคตคาดว่าตลาดบ้านและอุตสาหกรรมคมนาคมก็อาจจะถูกนำไปคิดรวมในตลาดด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ ผู้ผลิตทั่วโลกก็จะถูกจูงใจให้ต้องตรวจสอบการปล่อยคาร์บอนอย่างถูกต้องมากยิ่งขึ้น เพื่อที่จะแก้ปัญหาการรั่วไหลของคาร์บอน เช่น ทางฝั่งสหภาพยุโรปที่จะมีการตรวจสอบข้อมูลการปล่อยคาร์บอนของสินค้านำเข้าอย่างเข้มงวด และเก็บภาษีคาร์บอน

เพื่อให้ราคาสินค้าที่นำเข้าจากประเทศที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมน้อย มีราคาใกล้เคียงกับสินค้าที่มีมาตรฐานสิ่งแวดล้อมทางฝั่งสหภาพยุโรปมากยิ่งขึ้น มาตรการกำแพงภาษีคาร์บอนนี้ คาดว่าจะขยายไปเรื่อย ๆ ในอีกหลายแห่ง เนื่องจากเมื่ออุตสาหกรรมหนึ่งถูกคิดภาษีคาร์บอนแล้ว ก็จะไปกดดันให้คู่แข่งต้องเข้าไปอยู่ในกฎเกณฑ์เดียวกับตนเช่นกัน ส่วนรัฐบาลแต่ละประเทศก็จะอยากให้สินค้าส่งออกของประเทศถูกเก็บภาษีเข้าประเทศของตนมากกว่าจะไปถูกเก็บภาษีนำเข้าที่ปลายทาง

ที่มา : Research & Innovation for Sustainability Center

naichangmashare
Digital Media ที่นำเสนอความรู้ข่าวสารด้านงานวิศวกรรม เทคโนโลยีการผลิต ระบบออโตเมชัน โรบอต 3D การเพิ่มผลการผลิต สมาร์ทโลจิสติกส์ รีวิวสินค้าอุตสาหกรรม

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่