แนวโน้มเศรษฐกิจในกลุ่ม EEC ในปี 2565

0
Aerial view of the Map Ta Phut ports and petrochemical plants, which handle liquid materials and natural gas, in Eastern Economic Corridor, Rayong, Thailand.
Aerial view of the Map Ta Phut ports and petrochemical plants, which handle liquid materials and natural gas, in Eastern Economic Corridor, Rayong, Thailand.

หลายๆคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า EEC บ่อยๆ แต่อาจจะสงสัยว่าจริงๆ คืออะไร ? โดยโครงการ EEC หรือ ชื่อเต็มคือ “Eastern Economic Corridor” เป็นโครงการภายใต้พระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกที่ประกาศเริ่มใช้ในปี 2561 ชื่อไทยคือ “โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก” โดยต่อยอดความสำเร็จมาจากโครงการแผนพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก Eastern Seaboard ที่ดำเนินการมาตลอดระยะเวลา 20 ปี ซึ่งโครงการ EEC นี้ส่งผลหลายประการต่อเศรษฐกิจในภาคตะวันออกของประเทศไทยอย่างมากเลยนะครับ

โดยมีเป้าหมายอย่างไร คือ การส่งเสริม การลงทุนซึ่งจะเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมของประเทศเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและทำให้ เศรษฐกิจของไทยเติบโตได้ในระยะยาว โดยในระยะแรกจะเป็นการยกระดับพื้นที่ในเขต 3 จังหวัดคือ ชลบุรี, ระยอง, และ ฉะเชิงเทรา

โดยมีโครงการพื้นฐานขนาดใหญ่หลายๆโครงการ เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน, โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3, และโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมสมาร์ท ปาร์ค เป็นต้นนะครับ

ส่วนวันนี้ทางนายช่างมาแชร์จะขอมา Update ว่าแนวโน้มเศรษฐกิจนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง ? ตามไปดูกันนะครับ

รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยและ EEC ไตรมาสที่ 4 ปี 2565

1. ภาคการส่งออกสินค้า

“ขยายตัวแต่มีสัญญาณชะลอตัว” โดยคาดการณ์การส่งออกจะขยายตัวเหลือ 5.5 % ตามเศรษฐกิจของ ประเทศคู่ค้าที่มีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่อง โดยภาคอุตสาหกรรมหลักในพื้นที่ EEC ได้แก่ ยานยนต์ และ อิเล็กทรอนิกส์ ส่งสัญญาณหดตัวในช่วงไตรมาส 4 และยังต้องติดตามแนวโน้มการชะลอตัวและ ความเสี่ยงจากการถดถอยทางเศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้าอย่างใกล้ชิด ซึ่งเป็นปัจจัยกำหนดทิศทาง การฟื้นตัวของภาคการส่งออก

2. การบริโภคภาคเอกชน

“ขยายตัวได้ต่อเนื่อง” โดยคาดการณ์การบริโภคขยายตัวถึง 6.3 % เป็นผลมาจากรายได้ภาคเอกชนปรับ ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะภาคบริการท่องเที่ยวและรายได้เกษตรกร และตลาดแรงงานฟี้นตัวเข้าสู่ ระดับปกติก่อนการแพร่ระบาดโรค Covid-19 รวมถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดที่คลี่คลายลง ทำให้ การใช้จ่ายมีแนวโน้มฟื้นตัวสู่ภาวะปกติ อย่างไรก็ดี ภาระหนี้สินครัวเรือนและภาคธุรกิจที่อยู่ในระดับสูงและอยู่ในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้นจะเป็นข้อจำกัดต่อการเติบโตของการบริโภค

3. การลงทุนภาคเอกชน

“แนวโน้มขยายตัว” และมีผลคาดการณ์การลงทุนขยายตัวได้ 5.1 % โดยภาพรวมการลงทุน ในไตรมาส 4 ส่งสัญญาณชะลอตัวบ้างในการลงทุนหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ และหมวดก่อสร้าง ทรงตัว ในขณะที่ราคาวัสดุก่อสร้างและต้นทุนที่ผ่านจุดสูงสุดแล้วและมีแนวโน้มชะลอลง อีกทั้ง การส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมายมีความคืบหน้ามากขึ้น และมีการขอรับการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ EEC จำนวนทั้งสิ้น 637 โครงการคิดเป็นมูลค่าเงินลงทุน 3.6 แสนล้านบาท จะทำให้เกิดการลงทุนเพิ่มขึ้นในระยะข้างหน้า แต่ยังมีความเสี่ยงจากภาวะการส่งออกที่มีแนวโน้มชะลอลงอย่างต่อเนื่อง

4. จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศ

“แนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องและกลับเข้าสู่ระดับปกติมากขึ้น” โดยคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวจาก ต่างประเทศ 11.2 ล้านคน มีปัจจัยสนับสนุนจากนโยบายการเปิดประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีน และการเดินทางระหว่างประเทศที่กลับสู่ภาวะปกติมากขึ้น รวมถึงนโยบายเปิดรับนักท่องเที่ยวและการส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทยที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวได้ดีต่อเนื่อง

ปัจจัยเสี่ยงในระยะข้างหน้า

1. การชะลอตัวและความผันผวนของเศรษฐกิจโลก และการเคลื่อนย้ายเงินลงทุนระหว่างประเทศ

จาก การปรับข้ึนอัตราดอกเบ้ียนโยบายของประเทศ ต่าง ๆ ในขณะที่เศรษฐกิจโลกและคู่ค้าสาคัญต่างมี ความเส่ียงเศรษฐกิจชะลอตัว อีกทั้ง สถานการณ์ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ยังมีความไม่แน่นอน สูง ซ่ึงจะเป็นอุปสรรคต่อการฟ้ นื ตัวทางเศรษฐกิจ มากข้ึน รวมถึงเกิดความผันผวนในตลาดการเงิน โลก

2. ภาระหนี้สินของภาคเอกชนอยู่ในระดับสูง และแนวโน้มภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น

ประกอบกับลูกหนี้ที่ได้รับความช่วยเหลือตามมาตรการพักชาระหนี้ จากผลกระทบจาก Covid-19 กำลังจะสิ้นสุดลง จะเป็นข้อจำกัดสำคัญต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ภายในประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการ SME และผู้มีรายได้น้อย

3. การชะลอลงของการใช้จ่ายภาครัฐ และความไม่แน่นอนทางการเมืองหลังการเลือกตั้ง

โดยกรอบการใช้จ่ายภาครัฐมีทิศทางลดลงตาม “กรอบงบประมาณ” และการสิ้นสุด พรก. เงินกู้ Covid-19 และมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพที่ทะยอยสิ้นสุด นอกจากนี้สถานการณ์ทางการเมืองหลังการเลือกตั้งจะส่งผลต่อ กระบวนการจัดทางบประมาณรายจ่ายประจาปี เช่นกัน

Reference : https://www.eeco.or.th/

========================================================

และหากเพื่อนๆสนใจเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆในอุคสาหกรรม สามารถมาพบกับได้ใน “งาน Mira and Subcon EEC 2023” งานแสดงเทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรมภาคตะวันออก ด้านการบำรุงรักษา ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ และอุตสาหกรรมรับช่วงการผลิต

6-8 กันยายน 2566 ที่ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาตินงนุช พัทยา จังหวัดชลบุรี

WebBanner_MiRA-SCT-1450x180

สนใจสอบถามการจองพื้นที่ : https://mira-event.com/2023/en/Exhibit_RequestForm.asp

รายละเอียดเพิ่มเติม:
Website: mira-event.com
Line: @miraevent

========================================================

naichangmashare
Digital Media ที่นำเสนอความรู้ข่าวสารด้านงานวิศวกรรม เทคโนโลยีการผลิต ระบบออโตเมชัน โรบอต 3D การเพิ่มผลการผลิต สมาร์ทโลจิสติกส์ รีวิวสินค้าอุตสาหกรรม

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่