ทฤษฎีความชื้นในอากาศ [EP.2] : ความชื้นสัมพันธ์และความชื้นสัมบรูณ์ (Relative & Absolute Humidity)

0
Humidity-wallpaper
Humidity-wallpaper

เพื่อนๆรู้มั้ยว่า ในอากาศทั่วๆไปที่เราหายใจอยู่ จะมีละอองไอน้ำอยู่ในทุกๆโมเลกุลของอากาศ ซึ่งถ้าละอองน้ำในส่วนนี้เยอะหรือน้อย เราสามารถที่จะบ่งบอกจะวัดได้จากค่า “ความชื้น” หรือ “Humidity” นั่นเองครับ โดยนิยามคือ สภาวะที่อากาศมีไอน้ำปะปนอยู่ ปริมาณไอน้ำในอากาศจะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิ เมื่ออุณหภูมิสูงอากาศจะรับไอน้ำได้มากกว่าอากาศที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า

แต่ว่าการที่จะบอกว่าอากาศมีความชื้นมากหรือมีความชื้นน้อย มีอยู่ 2 วิธี คือ

  1. ความชื้นสัมบูรณ์ (Absolute Humidity)
  2. ความชื้นสัมพัทธ์ (Relative Humidity)

แล้วเจ้าสองตัวนี้ชื่อคล้ายๆกัน แต่ต่างกันอย่างไร เราตามไปดูกันนะครับ

1. ความชื้นสัมบูรณ์ (Absolute Humidity)

ความชื้นสัมบูรณ์ หรือ Absolute Humidity คือ การวัดค่า “น้ำหนักของไอน้ำในอากาศต่อหนึ่งหน่วยปริมาตร” ณ อุณหภูมิเดียวกัน โดยคำนวณได้จากอัตราส่วนระหว่าง “มวลของไอน้ำในอากาศ” กับ “ปริมาตรของอากาศนั้น” วัดหน่วยเป็น g/cm3 (น้ำหนักต่อปริมาตร)

กรณีที่อากาศหดตัว หรือขยายตัว ค่าความชื้นสัมบูรณ์ จะมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งๆที่ ปริมาณไอน้ำยังคงเท่าเดิม ดังนั้นจึงเป็นสาเหตุที่ว่า “ความชื้นสัมบรณ์ไม่เป็นที่นิยมมาวัดค่าความชื้นในอากาศ” นั่นเองนะครับ

2. ความชื้นสัมพัทธ์ (Relative Humidity)

ความชื้นสัมพัทธ์ หรือ Relative Humidity คือ ตัวที่บ่งบอกว่า มีปริมาณน้ำในหนึ่งโมเลกุลอากาศ มากน้อยแค่ไหน นั่นคือ อัตราส่วนระหว่าง “ความชื้นที่มีอยู่จริงในอากาศ” กับ “ความชื้นมากสุดที่อากาศรับได้ ; เมื่ออากาศอิ่มตัวด้วยไอน้ำ ที่อุณหภูมิและปริมาตรเดียวกัน” นิยมคิดเป็นร้อยละ หรือ เปอร์เซ็นต์ สามารถหาได้จากความสัมพันธ์

การเปรียบค่าความชื้นสัมพันธ์เหมือนน้ำในแก้ว (โมเลกุลของอากาศ) Credited by SciJinks

โดยการเปลี่ยนแปลงความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศจะขึ้นกับปัจจัยดังนี้

  1. ปริมาณไอน้ำในอากาศ ในกรณีที่ค่าความกดอากาศคงที่ หากปริมาณไอน้ำเพิ่มขึ้น ค่าความชื้นสัมพันธ์ก็จะเพิ่มขึ้นครับ
  2. อุณหภูมิ เมื่อปริมาณไอน้ำในอากาศและค่าความกดอากาศคงที่ หากอุณหภูมิเกิดการเปลี่ยนแปลงความชื้นก็จะเปลี่ยนแปลงครับ
  • อุณหภูมิลดลง – ค่าความชื้นสัมพันธ์จะเพิ่ม โดย เมื่ออากาศเย็นลงปริมาตรของอากาศก็จะหดตัวลง จำนวนไอน้ำต่อพื้นที่จะเพิ่มขึ้น
  • อุณหภูมิเพิ่มขึ้น – ค่าความชื้นสัมพันธ์จะลดลง โดย เมื่ออากาศร้อนขึ้นปริมาตรของอากาศก็จะขยายตัวเพิ่มขึ้น จำนวนไอน้ำต่อพื้นที่จะลดลง

ซึ่งสรุปง่ายๆคือ อุณหภูมิ จะแปรผกผันต่อ ความชื้นสัมพันธ์นั่นเองครับ

ผลของอุณหภูมิต่อความชื้นสัมพันธ์ Credited by canyonsandcrags.com

อย่างไรก็ตาม ค่าความชื้นสัมพันธ์ สูงสุดจะเป็นได้แค่ 100% เท่านั้นครับ นั่นคือ จุดอิ่มตัวของอากาศที่เต็มไปด้วยปริมาณไอน้ำมากที่สุด แต่ทว่าหากอุณหภูมิยังลดลงอีก ไอน้ำที่มีอยู่มากกว่าอากาศที่รับได้ ก็จะถูกบีบตัวออกมาในรูปของ ฝน น้ำค้าง หรือ หมอก และอุณหภูมิลดลงต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง (Freezing point) ก็จะเป็น หิมะ หรือน้ำแข็งนั่นเองครับ

เปรียบเทียบค่าความชื้นสัมบรูณ์ vs ความชื้นสัมพันธ์

เปรียบเทียบค่าต่างๆของความชื้นเพื่อแสดงความสัมพันธ์

เทคโนโลยีการวัดค่าอุณหภูมิและความชื้นด้วย Temperature & Humidity Sensor

หนึ่งในวิธีควบคุมความชื้นในโรงงานก็คือเราจะต้องมองให้เห็น (Monitoring) ว่าตอนนี้ความชื้น ณ จุดๆ นี้เป็นเท่าไหร่ ???

นายช่างมาแชร์ขอแนะนำเทคโนโลยี Wireless Humidity & Temperature Sensor ที่สามารถวัดความชื้นและอุณหภูมิได้แบบ Real-Time และเป็นเทคโนโลยีแบบ IoT (Internet of Thing อีกด้วย)

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม การตรวจวัดอุณหภูมิและความชื้นแบบไร้สาย (Wireless Temperature & Humidity Sensor)

ถ้าเพื่อนๆ คนไหนสนใจสามารถติดต่อโดยตรงกับ Murata เพื่อขอข้อมูล หรือขอทดลองตัว Demo ได้ฟรีที่โรงงานของเพื่อนๆเลยนะครับ

ติดต่อ 

ณพงศ์พัศ ธงชัย (เมฆ)
• วิศวกรฝ่ายขาย
• โทร: 081-132-4462
• อีเมล: [email protected]

คุณธนพร คุณากรเรืองกิจ (พลอย)
• เจ้าหน้าที่บริหารงานขายและการตลาด
• โทร: 063-125-6151
• อีเมล: [email protected]

หรือทาง Line Official Account: @thaimurata

#นายช่างมาแชร์ #Murata #Sensor #ความชื้น #Humidity #Technology #IoT #

Reference :
https://scijinks.gov/what-is-humidity/
https://macinstruments.com/
https://www.moscorner.com/

 

Digital Media ที่นำเสนอความรู้ข่าวสารด้านงานวิศวกรรม เทคโนโลยีการผลิต ระบบออโตเมชัน โรบอต 3D การเพิ่มผลการผลิต สมาร์ทโลจิสติกส์ รีวิวสินค้าอุตสาหกรรม

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่