เพิ่งผ่านช่วงปีใหม่มาได้ไม่นาน หลายๆคนอาจจะคงต้องเป้าหมายชีวิตว่า “ในปีนี้ฉันจะทำอะไรบ้าง อยากจะทำเรื่องนี้ให้เสร็จ อยากเป็นบุคคลที่ประสบความเร็จ” แต่แน่นอนว่าพอผ่านๆไปช่วงกลางปีทุกอย่างก็จะถูกลืม และหลายๆอย่างอาจจะไม่เสร็จ แล้วแผนก็ถูกลืมและเลือนลางไปในที่สุด หากยกตังอย่างที่ใกล้ตัวทุกคนมากที่สุดคือ “ปีนี้ฉันจะผอม!!” แต่ตกปลายปีอ้วนขึ้นกันหมดนะครับ อิอิ
แต่วันนี้ทางเพจนายช่างมาแชร์ก็ขอมาแชร์แนวคิดการบริหารและจัดการที่เป็นเครื่องมือตัวนึงที่ทางผมมีโอกาสได้นำไปใช้จริง และคิดว่าค่อนข้างเหมาะสมนั่นคือ “OKRs” หรือ Key Objective Result ซึ่งจะเป็นเครื่องมือที่ผู้ถึง Objective หรือเป้าหมายของชีวิตที่เราอยากจะเป็น และ Key Result หรือ กุญแจสำคัญ ที่จะพาเราไปหาเป้าหมายที่เราตั้งไว้ครับ
ซึ่งเกริ่นไว้ก่อนว่าคล้ายๆพวกระบบ KPI, Balanced Score card แต่ทว่าเป็นที่นิยมในหมู่บริษัท Start-Up ใหม่ๆที่ประสบความสำเร็จกันนะครับ เด่วเราลองไปดูกันว่าจากเครื่องมือสำหรับใช้งานในบริษัทจะมาจัดการเฉพาะในส่วนของชีวิตเราได้อย่างไร พร้อมยกตัวอย่างที่ผมได้ทำไปเมื่อต้นปีกันนะครับผม 🙂
OKRs : Objective and Key Results คืออะไร ?
ก่อนอื่นขอมาพูดถึงก่อนว่า OKRs (โอ-เค-อาร์) คืออะไร? กันก่อนเลยนะครับ โดย OKRs ย่อมาจากคำว่า Objective and Key Results เป็นระบบสำหรับ “การตั้งค่าเป้าหมาย และติดตามความก้าวหน้า” โดยมีจุดเริ่มต้น 1970-1980 และในปี 2000 ทาง Google หยิบยกมาใช้และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จและออก Product ออกมามากมาย โดยส่วนประกอบของ OKRs แบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ ดังนี้ คือ
- Objective หรือ วัตถุประสงค์หลัก เป็นการบอกจุดมุ่งหมายว่าคืออะไร (What)
- Key Result หรือ ผลลัพธ์หลัก เป็นการบอกว่าเราจะไปถึงจุดมุ่งหมาย หรือ objective ของเราได้อย่างไร (How)
โดยขอยกตัวอย่างง่ายๆนะครับ เช่นเรามี Objective ว่า “เราจะเป็นองค์กรที่มุ่งเน้นลูกค้า” ดังนั้นในการที่จะเป็นองค์กรที่มุ่งเน้นลูกค้าจะต้องทำอย่างไรบ้าง ?? ก็อาจจะเป็นการตั้ง Key Result เพื่อบรรลุ Objective ของเรานะครับ เช่น “ข้อ.1 สินค้าต้องมีคุณภาพโดยที่มีอัตราตีกลับไม่เกิน 1%” และ “มีระบบ Customer Service ช่วยบริการลูกค้าออนไลน์” เป็นต้น ดังนั้นหากเราจะบรรลุ Objective ได้เราก็จะต้องทำ Key Result ให้สำเร็จทั้ง 2 ข้อนะครับผม
แต่ในส่วนของบทความนี้เราขออนุญาตเพื่อนๆลงในส่วนของ personal OKRs เลยนะครับว่า สำหรับการตั้งแบบส่วนตัวเค้าทำยังไง และทำกันอย่างไร ?
การเขียน Personal OKRs สำหรับการกำหนดเป้าหมายในชีวิต
แน่นอนว่าทุกๆคนอยากจะประสบความสำเร็จในชีวิต แต่ด้วยคำว่าประสบความสำเร็จอาจจะแบ่งมุมมองในหลายๆมิติ เช่น ด้านการงาน การเงิน สุขภาพ หรือด้านความรรักและครอบครัวเป็นต้น และในหลายๆด้านก็จะมีสิ่งที่ให้ทำ (Key Result) ลงไปหยิบย่อยอีก ดังนั้นการมีเครื่องมือที่คอยช่วยบริหารจัดการสิ่งที่ต้องทำมากมายที่สำคัญต่อการใช้ชีวิตเนี่ยก็เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆครับ
ซึ่งในมุมมองผู้เขียนที่เคยอ่านหนังสือและทำ Workshop หลายๆเรื่องเค้าก็จะบอกว่า “สิ่งที่ต้องทำนั้นมีมากมายไม่จำกัด แต่แรง เวลา และทรัพยากรเรามีจำกัด” ดังนั้นแล้วหากเราทำในสิ่งที่ไม่ได้มีประโยชน์กับชีวิต มันก็จะเหมือนเราโยนทรัพากรของเราทิ้งไปเปล่าๆ ซึ่งเครื่องมือ OKRs จะเป็นตัวที่บอกไว้ว่า เราควรจะทำอะไรให้มีประโยชน์กับชีวิตเพื่อบรรลุเป้าหมายของเรากันครับ
ขอยกตัวอย่างสำหรับการตั้ง Personal OKRs ก็จะเป็นการกำหนดเป้าหมายที่เราอยากเป็นนะครับ เช่น “ปีนี้ฉันจะผอมและมีสุขภาพที่ดี” โดยเครื่องมือ OKRs จะเป็นเครื่องมือที่ ค่อนข้างมีความท้าทาย โฟกัส มีการติดตาม และที่สำคัญวัดผลได้
ขออธิบายเพิ่มเติมให้เห็นภาพคร่าวๆนะครับ จาก “Objective ที่บอกว่า ฉันจะผอม” อะไรคือตัวที่จะบอก หรือ Key result ว่าฉันจะผอม เช่น
- น้ำหนักลดลง 5 kg ภายใน 1 ปี
- วิ่งออกกำลังกาย 10 km ต่ออาทิตย์
- กินอาหาร Clean มื้อเย็น 6 วัน/สัปดาห์
โดยผมอาจจะมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมสำหรับการเขียน ดังนี้นะครับ
ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมในการเขียน Personal OKRs
- Objective ที่ตั้งขึ้นมาจะต้องมาจากสิ่งที่เราต้องการและอยากจะเป็นจริงๆ
- Key Results ต้องวัดผลเชิงปริมาณได้และเป็นเป้าหมายที่ท้าทายและเป็นไปได้ โดยเป้าหมายจะวัดผล เป็น 0-1 (เหมือน 0% ถึง 100%)
- OKRs เป็นเครื่องมือในการสิ่งที่สำคัญกับชีวิตเราให้สำเร็จและพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้น
- OKRs ไม่ใช่ To-do-list เป็นตัววัดผัลลพธ์หลัก
- Key Results ไม่ควรเกิน 5 ข้อต่อ 1 Objective และเลือกที่สำคัญๆ
จากนั้นเด่วผมขอยกตัวอย่างเพื่อให้ทุกคนเห็นภาพง่ายๆกันนะครับ โดยผมขอใช้เครื่องมือการทำตารางจากทาง Google Sheet นะครับ โดยก็จะมีข้อดีคือเป็น Online web application ใช้ฟรี ดูได้ทั้งบนคอม และมือถือ หรือหากใครสะดวกใช้เครื่องมืออื่นๆ เช่น Excel ก็ได้นะครับ หรือถ้าล้ำๆหน่อยก็จะมีพวก Mobile Application เช่น Productivity แต่ก็จะมีค่าบริการรายปี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแนวคิดและวิธีการก็เหมือนกันนะครับ
โดยเริ่มต้นผมขอแบ่ง Objective ในปีนี้ของผมที่อยากให้ได้จริงๆออกมาก่อนนะครับ โดยของผมจะมี
- Objective1 : ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน
- Objective2 : สร้างความมั่นคงและอิสรภาพทางการเงิน
- Objective3 : มีสุขภาพที่แข็งแรงและรูปร่างดี
- Objective4 : สร้างความสุขในครอบครัว
จากนั้นเราก็จะต้องมาตั้งคำถามว่า “เราจะต้อง Key Result ให้บรรลุ Objective ได้อย่างไร โดยที่สามารถวัดผลได้ และมีเป้าหมายที่ท้าทายและเป็นไปได้”
หลังจากนั้นเราก็มาคอยเฝ้าดูบ่อยๆนะครับว่าสิ่งที่เราตั้งเป้าไว้ถึงไหนแล้ว และพยายามทำมันให้สำเร็จนะครับ โดยปกติเราจะมาคอย Check-In ทุกๆไตรมาศและคอยถามตัวเองกลับว่า “มีอะไรที่เราสามารถปรับปรุง หรือพัฒนาได้อีกมั้ย?” โดยเป้าหมายเราสามารถปรับหรือเพิ่ม-ลด ได้ตามความเห็นของเราเลยนะครับ โดยที่เราต้องไม่ลืมว่า เรามี Objective หรือเป้าหมายชีวิตจริงๆคืออะไรนะครับ
สุดท้ายฝากไว้นะครับ ต่อให้เราจะมีเครื่องมือที่ดีหรือเทพแค่ไหน แต่สุดท้ายก็อยู่มี่ความมุ่งมั่น และความมีวินัยของเรานะครับ ^^
แล้วพบกับสาระดีๆแบบนี้ทางด้านงานช่าง งานวิศวกรรม และอุตสาหกรรมได้ที่ นายช่างมาแชร์ นะครับ
Website: www.naichangmashare.com
Facebook: https://www.facebook.com/naichangmashare/
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCmIPiSeg-uy4k8JYSmknp_g
Instragram: https://www.instagram.com/naichangmashare/
Twitter: https://twitter.com/naichangmashare
#นายช่างมาแชร์ #Management #OKRs