รู้ก่อนรอด! 4 พื้นที่เสี่ยงรอบเครนที่ทุกคนต้องหลีกพร้อมวิธีปฏิบัติและเช็คลิสต์ความปลอดภัยที่ห้ามมองข้าม

สวัสดีพี่ๆ ช่างทุกคนครับ งานใกล้เครนไม่ว่าจะเป็นการยกเหล็ก โครงสร้าง หรือวัสดุอุปกรณ์หนัก ถือเป็นหนึ่งในงานที่มีความเสี่ยงสูงที่สุดในไซต์ก่อสร้างและโรงงานอุตสาหกรรม ทุกการเคลื่อนที่ของเครน ไม่ว่าจะหมุนบูม ขยับขา outrigger หรือยกสลิง ล้วนมีโอกาสสร้างอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ หากเราไม่ระวังหรือไม่เข้าใจจุดเสี่ยงเหล่านี้

หลายครั้งพี่ๆ ช่างอาจคุ้นเคยกับเครนจนคิดว่ารู้ทุกอย่าง แต่จริงๆ แล้ว “โซนอันตรายรอบเครน” มีอยู่ 4 จุดหลักที่หลายคนมักมองข้าม ซึ่งรวมถึงแนวโค้งของบูม ด้านหลังรถเครนที่เป็นจุดอับสายตา สลิงและรอกที่อาจขาดหรือเกิดแรงสะบัด และบริเวณขา outrigger ที่หากพื้นรับน้ำหนักไม่ดีอาจทำให้เครนพลิกคว่ำ

บทความนี้จึงตั้งใจรวบรวมความรู้ทั้ง เหตุผลทางเทคนิค จุดปลอดภัย วิธีปฏิบัติ และเช็คลิสต์ก่อน–ระหว่าง–หลังการยก ให้พี่ๆ สามารถนำไปใช้ได้จริงในไซต์งาน เพื่อให้ทุกการทำงานกับเครนเป็นไปอย่างปลอดภัย ลดความเสี่ยง และกลับบ้านพร้อมคนที่เรารักอย่างปลอดภัยทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ หรือช่างผู้มีประสบการณ์ บทความนี้จะช่วยให้พี่ๆ มองเห็นจุดอันตรายได้ชัดเจน เข้าใจวิธีเว้นพื้นที่ปลอดภัย และเตรียมตัวรับมือกับเหตุฉุกเฉินได้อย่างถูกต้อง

ทำไม “ความปลอดภัยรอบเครน” จึงสำคัญกว่าที่คุณคิด

งานยกด้วยเครนถือเป็นหนึ่งในงานที่มีความเสี่ยงสูงที่สุดในไซต์ก่อสร้างและงานอุตสาหกรรม เนื่องจากเกี่ยวข้องกับน้ำหนักจำนวนมากและการเคลื่อนที่ที่เปลี่ยนทิศทางอยู่ตลอดเวลา พื้นที่ทำงานมักไม่คงที่ ขา outrigger อาจทรุดตัว หรือพื้นดินไม่สามารถรองรับน้ำหนักได้เต็มที่ ผู้ควบคุมเครนอาจมีจุดอับสายตา ทำให้มองไม่เห็นทุกมุมของพื้นที่รอบเครน แม้จะมีอุปกรณ์ทันสมัยและประสบการณ์สูง แต่เพียงก้าวเดียวเข้าไปในโซนอันตรายก็อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้ เช่น การถูกชน ถูกกระแทก ถูกทับ หรือแม้กระทั่งเครนพลิกคว่ำ พื้นที่รอบเครนเสี่ยงจากหลายปัจจัย ได้แก่ การแกว่งของบูม สลิงที่ตึงหรือขาด ขา outrigger ทรุดตัว และจุดอับสายตาของคนขับ การเข้าไปในพื้นที่เหล่านี้โดยไม่ระวังอาจเกิดอันตรายทันที ดังนั้นทุกคนที่เกี่ยวข้องต้องเข้าใจตำแหน่งอันตราย รู้ระยะปลอดภัย และปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ทุกการยกเป็นไปอย่างปลอดภัยและลดความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สิน

บทความนี้สรุป 4 จุดอันตรายหลักรอบเครน พร้อมอธิบายเหตุผลทางเทคนิค จุดปลอดภัย วิธีปฏิบัติ และแนวทางประเมินความเสี่ยง เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานทุกระดับสามารถใช้เป็นแนวทางได้จริง

1.แนวโค้งของบูม (Boom Swing / Boom Tip) 

แนวโค้งของบูม (Boom Swing / Boom Tip) 
แนวโค้งของบูม (Boom Swing / Boom Tip) 

ทำไมถึงอันตราย ?

เส้นทางโค้งของปลายบูม (Boom Tip Swing Path) ปลายบูมของเครนจะเคลื่อนที่เป็น วงโค้งรอบจุดหมุนหลัก (slewing axis) ของเครน การเคลื่อนที่เกิดขึ้นทั้ง การหมุนรอบฐานเครน (slewing) และ การยืด/หดบูม (telescopic boom extension/retraction) และเส้นทางนี้ไม่เป็นเส้นตรง แต่เป็น รัศมีโค้ง (arc radius) ซึ่งความกว้างขึ้นอยู่กับ ความยาวบูมและขนาดของโหลด ต่อมานะครับแรงแกว่งของโหลด (Load Swing / Pendulum Effect) วัตถุที่ถูกยกแขวนอยู่กับสลิงสามารถแกว่งไปมาจากแรงลมหรือการหมุนของบูม รัศมีอันตรายจึงขยายเกินความยาวบูมที่มองเห็น ทำให้พื้นที่เสี่ยงกว้างขึ้นกว่าที่คาดการณ์ และแรงเหวี่ยง (Momentum / Centrifugal Force) การหมุนบูมอย่างรวดเร็วหรือเปลี่ยนทิศทางทันทีจะสร้างแรงเหวี่ยง ทำให้ปลายบูมและโหลดเคลื่อนที่เร็วขึ้นกว่าเดิม หากผู้ปฏิบัติงานไม่เว้นระยะปลอดภัย อาจถูกชนหรือกระแทกได้ และมีข้อจำกัดด้านทัศนวิสัย (Visibility Limitation) ผู้ควบคุมเครนอาจมองไม่เห็นทุกมุมของบูม โดยเฉพาะด้านใต้บูมหรือด้านที่ถูกบดบังจากโครงสร้างรอบ ๆ การเข้าไปในพื้นที่โค้งโดยไม่ระวังจึงถือเป็นความเสี่ยงสูง

จุดปลอดภัย 

ห้ามยืนในแนววงโค้งของบูมหรือแนวที่ปลายบูมจะเคลื่อนผ่าน และยืนในแนวขนานกับบูมแต่ห่างจากรัศมีการแกว่งอย่างน้อย ความยาวบูม + ความยาวของสิ่งของที่ยก × 0.5 (ถ้าจะกำหนดเป็นระยะอย่างหยาบ ให้เว้นอย่างน้อย 3–5 เมตรขึ้นไปสำหรับงานขนาดเล็ก และมากกว่า 10 เมตรสำหรับโหลดขนาดใหญ่) ครับ

ข้อปฏิบัติสำคัญ

  1. ประกาศก่อนหมุนบูม ใช้เสียงแตรหรือวิทยุแจ้งให้ทุกคนทราบ ย้ำจุดสังเกต เช่น “ระวังปลายบูม!”
  2. สัญญาณมือและหยุดฉุกเฉิน ทุกคนควรเข้าใจสัญญาณมือมาตรฐาน (Standard Hand Signal) รู้วิธีหยุดเครนฉุกเฉินผ่านวิทยุ
  3. ตรวจสอบสภาพลมและโหลด ห้ามยกในลมเกินค่าที่คู่มือกำหนด (ส่วนใหญ่ 7–9 m/s สำหรับเครนล้อยาง) สำหรับบูมยาวหรือโหลดหนัก อาจต้องเผื่อความเร็วลมต่ำกว่า 7 m/s
  4. ประเมินเส้นทางโหลดล่วงหน้า วัดความยาวบูม + ความยาวโหลด + ปัจจัยแรงแกว่ง ประเมินพื้นที่รอบเครนเพื่อวางรัศมีปลอดภัย
  5. การเว้นระยะสำหรับผู้ปฏิบัติงาน ห้ามยืนในแนวโค้งของบูม หากจำเป็นต้องทำงานใกล้ ให้ใช้สายรัด/เชือกตีกรอบพื้นที่และ spotter ช่วยกำกับ

2.หลังรถเครน (Blind Spot — Rear of Carrier/Lower Cab) 

หลังรถเครน (Blind Spot — Rear of Carrier/Lower Cab)

ทำไมถึงอันตราย ?

มุมอับสายตาของผู้ควบคุมเครน ผู้ควบคุมเครนมี มุมมองจำกัด โดยเฉพาะด้านหลังใต้บูม หรือหลังล้อของเครนแม้ใช้กระจกมองข้างหรือกล้องหลัง มุมบางส่วนยังอาจมีจุดบอด (Blind Spot) หากผู้ปฏิบัติงานอยู่ในจุดเหล่านี้โดยไม่รู้ตัว การถอยหรือหมุนเครนอาจทำให้ถูกชนทันที เหตุผลทางกายภาพ: พื้นที่ใต้บูมหรือหลังล้อมีโครงสร้างบังสายตาและโหลดขนาดใหญ่บดบังผู้ควบคุม ต่อมาเส้นทางล้อและทิศทางบูมด้านหลัง ล้อหลังของเครน เป็นตัวบดบังวัตถุหรือคนที่อยู่ด้านหลัง และทิศทางการหมุนบูม และการแกว่งของสลิงสามารถสร้างแรงชนหรือแรงกระแทกโดยไม่คาดคิด หากผู้ปฏิบัติงานเข้าใกล้เส้นทางล้อหรือโค้งบูม อาจเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้ ความรู้เชิงเทคนิค: เส้นทางที่ปลอดภัยต้องคำนวณจากรัศมีโค้งของบูม + ขนาดโหลด + ระยะเผื่อแรงแกว่ง ครับ

การโหลดและสลิงที่เคลื่อนที่ เมื่อเครนยกของหรือหมุน โหลดและสลิงจะเคลื่อนที่โดยอัตโนมัติ พื้นที่หลังรถเครนเป็นจุดที่โหลดและสลิงอาจเข้าใกล้ผู้ปฏิบัติงานโดยไม่รู้ตัว การเกิดแรงสะบัด (Snapback) ของสลิง หากขาดหรือตึงมากเกินไป สามารถทำให้บาดเจ็บได้รุนแรง และความผิดพลาดจากการสื่อสาร หากไม่มี Spotter หรือสัญญาณมือที่ชัดเจน ผู้ควบคุมเครนอาจไม่ทราบว่ามีบุคคลอยู่ในเส้นทางอันตราย การสื่อสารไม่ชัดเจนสามารถทำให้ผู้ปฏิบัติงานเข้าใกล้พื้นที่อันตรายโดยไม่ตั้งใจ

และปัจจัยเสริมที่เพิ่มความเสี่ยงพื้นไม่เรียบหรือมีสิ่งกีดขวางด้านหลังเครน ทำให้ผู้ปฏิบัติงานอาจสะดุดเข้าไปในโซนอันตรายแสงสว่างไม่เพียงพอ ทำให้ผู้ควบคุมมองไม่ชัดในเวลากลางคืนหรือพื้นที่ร่มเงา การเคลื่อนที่เร็วของเครน โดยเฉพาะเมื่อโหลดหนัก เพิ่มแรงเฉื่อยและแรงเหวี่ยงของบูมและสลิงครับ

จุดปลอดภัย 

ห้ามยืนหรือพักด้านหลังของรถเครน ในทุกช่วงเวลาที่เครนกำลังเคลื่อนที่หรือยกของ และยืนในตำแหน่งที่ผู้ควบคุมเห็นชัดเจน ด้านข้างที่ผู้ควบคุมหันหน้าไประยะห่างจากตัวรถ อย่างน้อย 2–3 เมตร ขึ้นกับขนาดและประเภทเครน และเว้นระยะเพิ่มเติม หากเป็นเครนขนาดใหญ่หรือโหลดหนักครับ

ข้อปฏิบัติสำคัญ

  1. ใช้ Spotter / ผู้คุมทิศทาง Spotter ยืนในตำแหน่งที่มองเห็นผู้ควบคุมและผู้ปฏิบัติงาน คอยให้สัญญาณมือหรือวิทยุเพื่อแจ้งทิศทางและระยะปลอดภัย
  2. ติดตั้งระบบช่วยมองและตรวจจับ กระจกมองข้าง, กล้องหลัง, เซ็นเซอร์ตรวจจับวัตถุหรือผู้คน เลือกระบบที่เหมาะสมกับขนาดเครนและสภาพพื้นที่
  3. ห้ามขึ้น/ลงตัวรถขณะเคลื่อนที่ การขึ้น-ลงขณะเครนเคลื่อนอาจทำให้ลื่นตกหรือถูกชน
  4. กำหนดโซนห้ามเข้า (Exclusion Zone) ใช้กรวยหรือเทปตีเส้นรอบด้านหลังเครน และประกาศให้ทุกคนทราบว่าเป็นพื้นที่อันตราย
  5. ตรวจสอบสภาพพื้นที่ก่อนเคลื่อนที่ พื้นต้องมั่นคงและไม่มีอุปกรณ์ วัสดุ หรือคนอยู่ด้านหลัง หากเป็นพื้นที่ก่อสร้าง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีท่อ, ร่องหรือวัตถุหล่นง่าย

3.สลิงและรอก (Slings, Hooks, Block and Tackle) 

สลิงและรอก (Slings, Hooks, Block and Tackle)

ทำไมถึงอันตราย ?

สลิงมีความเสี่ยงต่อการฉีกขาดและสึกหรอ สลิงโลหะและสลิงผ้าอาจถูกกัดกร่อน, ขาดเส้น, หรือสึกกร่อนจากการใช้งานบ่อยและหากสลิงเสียหายระหว่างยกของ น้ำหนักและแรงดึงจะกระจายไม่สมดุล อาจทำให้โหลดตกครับ แรงสะบัดของสลิง (Snapback) เมื่อสลิงที่ตึงมากเกิดขาดหรือหลุดอย่างฉับพลัน จะเกิดแรงสะบัดย้อนกลับด้วยความรุนแรง บุคคลที่ยืนในแนวเดียวกับสลิงอาจถูกแรงกระแทกจนบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิต ต่อมาความเสี่ยงจากมุมแหลมและผิวของวัสดุ หากสลิงสัมผัสกับมุมแหลมของโครงสร้างหรืออุปกรณ์ จะเกิดการตัดเฉือน (Abrasion) การวางสลิงไม่ถูกต้องหรือใช้วัสดุป้องกันไม่เพียงพอ จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการฉีกขาด และเกิดความผิดพลาดในการยกของใช้สลิงที่มีสเปคต่ำกว่าน้ำหนักโหลด (WLL – Working Load Limit) มัดสลิงผิดวิธี เพิ่มน้ำหนักเกิน ทำให้โหลดไม่สมดุล

จุดปลอดภัย

ห้ามยืนในแนวเดียวกับสลิงที่ตึง (Pull Line) และควรเว้นระยะด้านข้างอย่างน้อย 45° จากแนวสลิง ระยะห่างจากสลิงงานเบา: 2–3 เมตร และงานหนัก/โหลดใหญ่: เพิ่มระยะตาม WLL และความยาวสลิงครับ

ข้อปฏิบัติสำคัญ

  1. ตรวจสอบสภาพสลิงก่อนใช้งานทุกครั้งฉีกขาด, ผ้าโล่, ตะขอหัก, การกัดกร่อน
  2. ใช้สลิงให้ตรงกับน้ำหนักและประเภทงาน ตรวจสอบ WLL ของสลิงและอุปกรณ์ให้ตรงกับโหลด
  3. หลีกเลี่ยงมุมแหลมโดยใช้ Protective Padding / Edge Protection
  4. ห้ามเพิ่มน้ำหนักด้วยการมัดสลิงผิดวิธี
  5. รักษาความสะอาดและสภาพของสลิง เก็บในที่แห้ง หลีกเลี่ยงสารเคมีกัดกร่อน

4.ใกล้ขา Outrigger (Outrigger / Stabilizer Area)

4.ใกล้ขา Outrigger (Outrigger / Stabilizer Area)

ทำไมถึงอันตราย ?

รับน้ำหนักและถ่ายทอดโหลดลงพื้น Outrigger เป็นขารองที่รับน้ำหนักเครนและโหลด หากวางบนพื้นอ่อน, ไม่มั่นคง หรือกางไม่เต็ม อาจเกิดการทรุดหรือเคลื่อนตัว และความเสี่ยงจากการปรับระดับขา outrigger ขารองอาจกระดกหรือยุบขณะปรับระดับผู้ที่ยืนใกล้อาจถูกบดทับหรือเสียสมดุล ความเสี่ยงจากพื้นไม่แข็งแรง พื้นทราย, ดินเหนียว, หรือพื้นที่ที่ผ่านการอัดแน่นไม่ดีและพื้นที่มีท่อใต้ดินหรือโครงสร้างชั่วคราว อาจรับน้ำหนักไม่เพียงพอ

จุดปลอดภัย

เว้นระยะเพิ่ม ตามขนาดเครนและลักษณะโหลด  ห้ามยืน, พิง หรือทำงานใกล้ขา outrigger ขณะปรับระดับหรือขณะเครนรับน้ำหนัก และเว้นระยะปลอดภัย: 1.5–2 เมตรจากฐาน outrigger ครับ

ข้อปฏิบัติสำคัญ

  1. ตรวจสอบ ความแข็งแรงและความสามารถรับน้ำหนักของพื้น ก่อนวาง outrigger ใช้ outrigger pads หรือ cribbing ที่เหมาะสม
  2. กาง outrigger ให้เต็มตามคู่มือและ ล็อกตำแหน่ง ก่อนเริ่มยก
  3. ระวัง การทรุดตัวของพื้น โดยเฉพาะพื้นอ่อนหรือพื้นที่ชื้น
  4. เมื่อต้องวางบน โครงสร้างชั่วคราว, ตรวจสอบความสามารถรับน้ำหนักและความมั่นคงของโครงสร้าง
  5. ตรวจสอบ ระดับความเอียงของเครน อย่างสม่ำเสมอระหว่างยกของ

สรุปพื้นที่เสี่ยงรอบเครนดังนี้:

การทำงานรอบเครนมีความเสี่ยงสูงจากหลายปัจจัย เช่น แนวโค้งของบูม, มุมอับสายตาหลังรถ, สลิงและรอกที่ตึงหรือขาด, และขา outrigger ที่รับน้ำหนัก หากไม่ระมัดระวังอาจถูกชน ถูกกระแทก หรือถูกแรงสะบัดของสลิงได้ การเว้นระยะปลอดภัย, ตรวจสอบอุปกรณ์, ปฏิบัติตามคู่มือผู้ผลิต และสื่อสารชัดเจนเป็นสิ่งจำเป็น การจัดการ 4 จุดอันตรายนี้อย่างถูกต้องช่วยลดความเสี่ยงและป้องกันอุบัติเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เราพร้อมให้บริการครบ จบในที่เดียว ด้วยทีมงานมืออาชีพ และอุปกรณ์มาตรฐานระดับสากล 

📞 โทรเลย: [038-054065] 
📍 เยี่ยมชมสถานที่จริง หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.sahacrane.com 

เครน” ไม่ใช่แค่ยกของ — แต่คือเครื่องมือที่ยกระดับโลก 
แล้วคุณล่ะ พร้อมให้เครนของคุณช่วยยกระดับธุรกิจหรือยัง? 


แล้วพบกับสาระดีๆแบบนี้ทางด้านงานช่าง งานวิศวกรรม และอุตสาหกรรมได้ที่ นายช่างมาแชร์ นะครับ

Website: www.naichangmashare.com
Facebook: https://www.facebook.com/naichangmashare/
Blockdit :  https://www.blockdit.com/naichangmashare
Instragram: https://www.instagram.com/naichangmashare/
Twitter: https://twitter.com/naichangmashare
Youtube: https://www.youtube.com/@naichangmashare
TikTok :  https://www.tiktok.com/@naichangmashare

นายช่างมาแชร์

ทีมแอดมิน - นายช่างมาแชร์
ทีมแอดมิน - นายช่างมาแชร์
ขอมาแชร์ความรู้ "งานช่าง เครื่องจักรกล และงานวิศวกรรม" ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน

Related

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

273ผู้ติดตามติดตาม
1,580ผู้ติดตามติดตาม
356ผู้ติดตามติดตาม

Thanks Sponsor

Latest Articles

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้ที่จำเป็น

    ยินยอมใช้ Cookie สำหรับการติดตามการใช้งานเวปไซท์ นายช่างมาแชร์ เพื่อปรับปรุงคุณภาพของเนื้อหาและบริการ

บันทึกการตั้งค่า
×