การบริหาร Spare part สำหรับงานซ่อมบำรุง

0
การบริหาร Spare part สำหรับงานซ่อมบำรุง
การบริหาร Spare part สำหรับงานซ่อมบำรุง

การบริหาร Spare Part สำหรับงานซ่อมบำรุง เป็นสิ่งสำคัญในการจัดการทรัพยากรเพื่อให้การซ่อมบำรุงดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดเวลาหยุดชะงัก (Downtime) ของเครื่องจักร และประหยัดต้นทุน มีเทคนิคและแนวทางดังนี้

Factorium Banner CMMS

1.การจัดหมวดหมู่ Spare Part

ชิ้นส่วนสำคัญ (Critical Spare Part):
* เป็นชิ้นส่วนที่ต้องมีในสต็อกเสมอ เนื่องจากส่งผลกระทบต่อการผลิตหากขาด เช่น มอเตอร์, เซนเซอร์

  • ชิ้นส่วนทั่วไป (Non-Critical Spare Part):
    • ใช้งานไม่บ่อย และมีเวลาสั่งซื้อเพียงพอก่อนใช้งาน เช่น อุปกรณ์ไฟฟ้าทั่วไป
  • ชิ้นส่วนที่หมดอายุได้ (Perishable Spare Part):
    • เช่น น้ำมันหล่อลื่น, กรองอากาศ ที่ต้องเปลี่ยนตามรอบเวลา

2.การวางแผนความต้องการ Spare Part

  • วิเคราะห์ข้อมูลการใช้งาน:
    • ใช้ข้อมูลจากประวัติการซ่อมบำรุงเพื่อคาดการณ์ความต้องการชิ้นส่วน
  • ตั้งค่าระดับการเก็บสต็อก (Reorder Point):
    • กำหนดจุดที่ควรสั่งซื้อชิ้นส่วนใหม่ เพื่อป้องกันการขาดแคลน
  • จัดทำแผนสำรอง:
    • สำหรับชิ้นส่วนที่ใช้บ่อย หรือใช้ในกรณี

3.การจัดการคลัง Spare Part

  • ใช้ระบบจัดการ (Inventory Management System):
    • ใช้ซอฟต์แวร์ CMMS หรือ ERP เพื่อบันทึกจำนวน, ตำแหน่งเก็บ และสถานะของชิ้นส่วน
  • การจัดเรียงอย่างเป็นระบบ:
    • แบ่งโซนการเก็บตามหมวดหมู่ เช่น หมวดอุปกรณ์ไฟฟ้า, หมวดชิ้นส่วนเครื่องจักร
  • ตรวจสอบสต็อกเป็นประจำ:
    • ทำการตรวจนับ (Cycle Count) เพื่อให้ข้อมูลคลังตรงกับความเป็นจริง

4.การพยากรณ์และวางแผนการจัดซื้อ

  • พิจารณา Lead Time:
    • เวลาที่ใช้ในการสั่งซื้อและจัดส่งชิ้นส่วนต้องสอดคล้องกับความเร่งด่วนในการใช้งาน
  • สั่งซื้อแบบรวม (Bulk Order):
    • ลดต้นทุนต่อชิ้น และประหยัดค่าขนส่ง
  • บริหาร Supplier:
    • เลือกซัพพลายเออร์ที่เชื่อถือได้ และมีเงื่อนไขการจัดส่งที่เหมาะสม
Factorium Banner CMMS

5.การวิเคราะห์ต้นทุนและการควบคุมงบประมาณ

วิเคราะห์ค่าใช้จ่าย Spare Part:
* ตรวจสอบว่าการเก็บสต็อกมีต้นทุนเท่าไร และมีการใช้งานอย่างคุ้มค่าหรือไม่

  • ลดต้นทุนส่วนเกิน:
    • ใช้ชิ้นส่วนที่สามารถทดแทนกันได้ หรือปรับลดจำนวนชิ้นส่วนที่ไม่จำเป็นในสต็อก
  • จัดทำรายงานประจำเดือน:
    • สรุปข้อมูลการใช้ชิ้นส่วนและต้นทุน เพื่อตรวจสอบความคุ้มค่า

6.การบำรุงรักษา Spare Part

  • การตรวจสอบสภาพ:
    • ตรวจสอบชิ้นส่วนที่มีความเสี่ยงเสียหาย เช่น เก็บในที่ที่มีความชื้นต่ำสำหรับอะไหล่ที่ไวต่อสภาพอากาศ
  • กำหนดรอบเปลี่ยนชิ้นส่วน:
    • วางแผนการเปลี่ยนชิ้นส่วนตามรอบระยะเวลาที่เหมาะสม (Preventive Maintenance)

7.การจัดการกรณีฉุกเฉิน

  • ชิ้นส่วนสำรองสำหรับฉุกเฉิน:
    • เก็บชิ้นส่วนที่สำคัญและจำเป็นต่อการซ่อมบำรุงเร่งด่วน
  • ทีมรับมือฉุกเฉิน:
    • เตรียมทีมและแผนงานเพื่อรับมือกับสถานการณ์หยุดชะงัก

ตัวช่วยสำคัญ: เทคโนโลยีในการบริหาร Spare Part

ใช้ระบบ CMMS (Computerized Maintenance Management System):
* ช่วยในการติดตามสต็อก Spare Part, กำหนดการสั่งซื้อ และเชื่อมโยงข้อมูลกับงานซ่อมบำรุง

  • RFID และ Barcode:
    • สำหรับติดตามตำแหน่งและจำนวนชิ้นส่วนได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

การบริหาร Spare Part ที่ดีช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพในการซ่อมบำรุง และลดระยะเวลาการหยุดชะงักของเครื่องจักร

=======================================

หากเพื่อนๆกำลังมองหาระบบ CMMS ที่คุณภาพ มีมาตราฐานสากลระดับโลก ที่สำคัญใช้ฟรี ไม่ต้องโหลดโปรแกรม สามารถใช้ได้ในมือถือ ทั้งระบบ android และ iOS

นายช่างมาแชร์ขอแนะนำโปรแกรม Factorium ระบบ CMMS ยุคใหม่ โปรแกรมซ่อมบำรุงบนสมาร์ทโฟน สำหรับโรงงานยุค 4.0 ครับผม (www.factorium.tech)

ติดต่อฝ่ายขายและปรึกษาโทร : 096-034-7506 (เนย) , 083-932-4654 (เกว)

=======================================

แล้วพบกับสาระดีๆแบบนี้ทางด้านงานช่าง งานวิศวกรรม และอุตสาหกรรมได้ที่ นายช่างมาแชร์ นะครับ

Website: www.naichangmashare.com
Facebook: https://www.facebook.com/naichangmashare/
Blockdit :  https://www.blockdit.com/naichangmashare
Instragram: https://www.instagram.com/naichangmashare/
Twitter: https://twitter.com/naichangmashare
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCmIPiSeg-uy4k8JYSmknp_g

#นายช่างมาแชร์ #Sparepart #Management #CMMS #Factorium

naichangmashare
Digital Media ที่นำเสนอความรู้ข่าวสารด้านงานวิศวกรรม เทคโนโลยีการผลิต ระบบออโตเมชัน โรบอต 3D การเพิ่มผลการผลิต สมาร์ทโลจิสติกส์ รีวิวสินค้าอุตสาหกรรม

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่