หากพูดถึง “ความชื้น” (Humidity) เป็นคำที่ใช้เรียกปริมาณ “น้ำ” ในอากาศ ถ้าหากความชื้นมีค่าเยอะก็แสดงว่าน้ำในอากาศจะเยอะ เราก็จะมีความรู้สึกว่ามันเหนียวๆ เปียกๆ แต่ถ้าความชื้นในอากาศน้อย หรือ น้ำในอากาศน้อย เราก็จะรู้สึกแห้งๆ กันใช่มั้ยละครับ….แต่ในทางเดียวกันในโรงงานอุตสาหกรรมพวกสินค้า เครื่องจักร หรือแม้แต่กระทั่งคนทำงาน ในโรงงาน ก็มีผลกระทบต่อความชื้น (มากๆ) เช่นกันนะครับ
งั้นวันนี้ทางนายช่างมาแชร์จะขอมายก 5 ปัaญหาหลักๆ ที่ความชื้นมีผลกระทบต่อโรงงานกันนะครับ
1. ผลกระทบต่อสินค้า (Product Impact)
ผลกระทบต่อสินค้า อันนี้ทางนายช่างขอยกให้เป็น No.1 เลยนะครับ เพราะถ้าหากสินค้าที่เราเก็บๆไว้เนี่ย เกิดถูกความชื้นทำความเสียหาย จนเกิด “สนิม” หรือทำให้คุณภาพสินค้าด้อยลง แน่นอนว่าสินค้าพวกนั้นก็จะขายไม่ได้ ถือว่าเป็นการทำลายอู่ข้าว อู่น้ำหลัก ของเราเลย หากยกตัวอย่างให้เห็นภาพ ก็จะเป็นสินค้าจำพวก ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์, ไม้, หรือแม้กระทั่งวัสดุจำพวกโลหะ ที่เราเก็บไว้ในคลังสินค้า หรือ Warehouse นั่นเองครับ
2. ผลกระทบต่อเครื่องจักรและระบบการผลิต (Process Impact)
หากมองย้อนกลับไปว่าในโรงงานผลิตเรามีอะไรบ้าง ? ที่โดนพวก “น้ำ หรือ ความชื้น” แล้วได้รับผลกระทบบ้าง ก็จะมีเครื่องจักรที่ชิ้นส่วนเป็นโลหะโดนน้ำก็จะเป็นสนิม, สายพานที่ทำมาจากยางโดนน้ำก็จะอุ้มน้ำและก็ขาด, ชิ้นส่วนทางอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งไม่ถูกกับน้ำอยู่แล้วอาจจะสามารถพังและไม่สามารถควบคุมนระบบได้ แล้วถ้าเครื่องจักรเหล่านี้เกิดพังขึ้นมาจากความชื้นแล้วละก็ผลกระทบที่ตามมาก็คือ โรงงานหยุดการผลิต, เสียค่าซ่อมบำรุง จนถึงกระทั่งเสียโอกาสทางธุรกิจไปเลยนะครับ
3. ความปลอดภัยของพนักงาน (Safety Impact)
หลายคนอาจจะสงสัยว่า “ความชื้น” จะไปเกี่ยวอะไรกับความปลอดภัยของพนักงาน แต่อย่างที่บอกในหัวข้อด้านบน หากความชื้นส่งผลกระทบต่อเครื่องจักร และอุปกรณ์ควบคุมทางอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ตัวเครื่องจักรมีโอกาสที่จะ Mulfuction หรือทำงานผิดปกติ ถ้าเกิดพนักงานเข้าไปทำงานกับอุปกรณ์ที่ผิดปกติแล้วก็อาจจะมีความเสี่ยง และผลกระทบแบบลูกโซ่ (อารมณ์ประมาณว่าตรงนู้นก็เสีย ตรงนี้ก็ใช้งานไม่ได้ เลยต้องหาวิธีการที่นอกเหนือขอบเขตมาจัดการปัญหาซึ่งอาจมีความผิดพลาดได้) จนทำให้เกิดอุบัติเหตุจากการทำงานกับเครื่องจักรได้เลยครับ
4. สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี (Environment Impact)
ในแง่ของสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี ซึ่งความชื้นจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลโดยตรงต่ออารมณ์ของพนักงานเอง….อาจจะมีคำถามว่า แล้วเจ้าความชื้นมันมาทำให้เราอารมณ์เสียได้อย่างไร ? เด่วนายช่างขอมาอธิบายตรงนี้นะครับ คำว่า ความชื้น ภาษาอังกฤษ ใช้คำว่า humidity เลยนะครับ ซึ่งแปลว่า ซึ่งมาจากรากศัพท์จาก Human หรือ มนุษย์ นั่นเอง ซึ่งคำนี้จะหมายถึงความรู้สึกของมนุษย์เลยครับ ดังนั้นหากเราต้องทำงานในที่ๆมีความชื้นมากๆ หรือ ความชื้นที่แห้งเกินไป ตัวคนทำงานจะรู้สึกหงุดหงิดและไม่โอเครอย่างแรงเลยครับ
และยังมีผลต่อเรื่องเชื้อรา กลิ่นเหม็น หรือพวกวัชพืชต่างๆในจุดที่เหมาะสมที่จะเกิดได้อีกด้วยนะครับ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็จะทำให้สภาพแวดล้อมการทำงาน หรือการใช้ชีวิตในโรงงานอุตสาหกรรมแย่ลงอย่างมีนัยสำคัญเลยครับ
5. ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว (Cost Impact)
จากปัจจัยทั้ง 4 ข้อด้านบน ก็จะส่งผลกระทบต่อในแง่ของต้นทุนการผลิต, ต้นทุนงานซ่อมและบำรุงรักษา, ต้นทุนการดูแลสินค้า, ค่าเสียโอกาสต่างๆ อีกมากมายครับ ดังนั้นหากเราสามารถควบคุมความชื้นให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมได้ โดยค่าความชื้นทั่วๆไปที่เหมาะสมอยู่ประมาณ RH (Relative Humidity) 40-60% ; แต่ว่าแต่ละงานจะมี Spec ของเค้าอีกทีนะครับทุกคน
เทคโนโลยีการวัดค่าอุณหภูมิและความชื้นด้วย Temperature & Humidity Sensor
หนึ่งในวิธีควบคุมความชื้นในโรงงานก็คือเราจะต้องมองให้เห็น (Monitoring) ว่าตอนนี้ความชื้น ณ จุดๆ นี้เป็นเท่าไหร่ ???
นายช่างมาแชร์ขอแนะนำเทคโนโลยี Wireless Humidity & Temperature Sensor ที่สามารถวัดความชื้นและอุณหภูมิได้แบบ Real-Time และเป็นเทคโนโลยีแบบ IoT (Internet of Thing อีกด้วย)
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม การตรวจวัดอุณหภูมิและความชื้นแบบไร้สาย (Wireless Temperature & Humidity Sensor)
ถ้าเพื่อนๆ คนไหนสนใจสามารถติดต่อโดยตรงกับ Murata เพื่อขอข้อมูล หรือขอทดลองตัว Demo ได้ฟรีที่โรงงานของเพื่อนๆเลยนะครับ
ติดต่อ
ณพงศ์พัศ ธงชัย (เมฆ)
• วิศวกรฝ่ายขาย
• โทร: 081-132-4462
• อีเมล: [email protected]
คุณธนพร คุณากรเรืองกิจ (พลอย)
• เจ้าหน้าที่บริหารงานขายและการตลาด
• โทร: 063-125-6151
• อีเมล: [email protected]
หรือทาง Line Official Account: @thaimurata
#นายช่างมาแชร์ #Murata #Sensor #ความชื้น #Humidity #Technology #IoT #