5 ปัญหาความชื้นภายในโรงงาน

0
5 ปัญหาความชื้นในโรงงาน
5 ปัญหาความชื้นในโรงงาน

หากพูดถึง “ความชื้น” (Humidity) จะเป็นค่าที่ใช้เรียกปริมาณ “น้ำ” ในอากาศ ถ้าหากความชื้นมีค่าเยอะก็แสดงว่าน้ำในอากาศจะเยอะ เราก็จะมีความรู้สึกว่ามันเหนียวๆ เปียกๆ ตัวครับ แต่ถ้าความชื้นในอากาศน้อย หรือ ปริมาณน้ำในอากาศน้อย เราก็จะรู้สึกแห้งๆ กันใช่มั้ยละครับ “ในทางเดียวกัน ความชื้นก็มีผลกระทบต่อสินค้า เครื่องจักร และกระบวนการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม” อย่างมากๆเลยนะครับ

งั้นสำหรับบทความนี้ทางนายช่างมาแชร์จะขอมายก 5 ปัญหาหลักๆ ที่ความชื้นมีผลกระทบต่อโรงงานกันนะครับ

1. ผลกระทบต่อสินค้า (Product Impact)

ผลกระทบต่อสินค้า อันนี้ทางนายช่างขอยกให้เป็น No.1 เลยนะครับ เพราะถ้าหากสินค้าที่เราเก็บๆไว้ เกิดถูกความชื้นทำความเสียหาย จนทำให้สินค้าเกิด “สนิม” หรือทำให้คุณภาพสินค้าด้อยลง แน่นอนว่าสินค้าพวกนั้นก็จะขายไม่ได้ ถือว่าเป็นการทำลายอู่ข้าว อู่น้ำหลัก ของเราเลย หากยกตัวอย่างให้เห็นภาพถึงผลกระทบที่รุนแรงหน่อย ก็จะเป็นสินค้าจำพวก ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์, ไม้, หรือแม้กระทั่งวัสดุจำพวกโลหะ ที่เราเก็บไว้ในคลังสินค้า หรือ Warehouse เป็นต้นครับ

ภาพโดย Jens P. Raak จาก Pixabay

2. ผลกระทบต่อเครื่องจักรและระบบการผลิต (Process Impact)

หากมองย้อนกลับไปว่าในกระบวนการผลิต และเครื่องจักร ในโรงงานอุตสาหกรรม ว่าเรามีอะไรบ้างที่โดนพวก “น้ำ หรือ ความชื้น” แล้วได้รับผลกระทบ หลักๆก็จะมีเครื่องจักรที่ชิ้นส่วนเป็นโลหะเมื่อโดนน้ำก็จะเป็นสนิม, สายพานที่ทำมาจากยางโดนน้ำก็จะอุ้มน้ำแล้วก็ขาด, ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งไม่ถูกกับน้ำอยู่แล้วอาจจะสามารถพังและไม่สามารถควบคุมระบบได้ แล้วถ้าเครื่องจักรเหล่านี้เกิดพังขึ้นมาจากความชื้นแล้วละก็ผลกระทบที่ตามมาก็คือ โรงงานหยุดการผลิต, เสียค่าซ่อมบำรุง จนถึงกระทั่งเสียโอกาสทางธุรกิจไปเลยนะครับ

ภาพโดย Marcin จาก Pixabay

3. ความปลอดภัยของพนักงาน (Safety Impact)

หลายคนอาจจะสงสัยว่า “ความชื้น” จะไปเกี่ยวอะไรกับความปลอดภัยของพนักงาน แต่อย่างที่บอกในหัวข้อด้านบน หากความชื้นส่งผลกระทบต่อเครื่องจักร และอุปกรณ์ควบคุมทางอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ตัวเครื่องจักรมีโอกาสที่จะ Malfunction หรือทำงานผิดปกติ ถ้าเกิดพนักงานเข้าไปทำงานกับอุปกรณ์ที่ผิดปกติแล้วก็อาจจะมีความเสี่ยง และผลกระทบแบบลูกโซ่ (อารมณ์ประมาณว่าตรงนู้นก็เสีย ตรงนี้ก็ใช้งานไม่ได้ เลยต้องหาวิธีการที่นอกเหนือขอบเขตมาจัดการปัญหาซึ่งอาจมีความผิดพลาดได้)

จนทำให้เกิดอุบัติเหตุจากการทำงานกับเครื่องจักรได้เลยครับ

ภาพโดย Ziaur Chowdhury จาก Pixabay

4. ผลกระทบต่อการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี (Environment Impact)

ในแง่ของสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี ซึ่งความชื้นจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลโดยตรงต่ออารมณ์ของพนักงานเอง….อาจจะมีคำถามว่า แล้วเจ้าความชื้นมันมาทำให้เราอารมณ์เสียได้อย่างไร ? เดี๋ยวนายช่างขอมาอธิบายตรงนี้นะครับ คำว่า ความชื้น ภาษาอังกฤษ ใช้คำว่า humidity เลยนะครับ ซึ่งมาจากรากศัพท์คำว่า Human หรือ มนุษย์ นั่นเอง ซึ่งคำนี้จะหมายถึงความรู้สึกของมนุษย์เลยครับ ดังนั้นหากเราต้องทำงานในที่ๆมีความชื้นมากๆ หรือ ความชื้นที่แห้งเกินไป ตัวคนทำงานจะรู้สึกหงุดหงิดและไม่โอเคอย่างแรงเลยครับ

และยังมีผลต่อการเกิดเชื้อรา กลิ่นเหม็น หรือพวกวัชพืชต่างๆในจุดที่เหมาะสมที่จะเกิดได้อีกด้วยนะครับ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็จะทำให้สภาพแวดล้อมการทำงาน หรือการใช้ชีวิตในโรงงานอุตสาหกรรมแย่ลงอย่างมีนัยสำคัญเลยครับ

ภาพโดย Nikolett Emmert จาก Pixabay

5. ผลกระทบต่อการประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว (Cost Impact)

จากปัจจัยทั้ง 4 ข้อด้านบนก็น่าจะทำให้ทุกคนเห็นภาพแล้วว่าปัญหาความชื้นนั้นส่งผลกระทบทั้งในแง่ของต้นทุนการผลิต, ต้นทุนงานซ่อมและบำรุงรักษา, ต้นทุนการดูแลสินค้า, และค่าเสียโอกาสต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายในระยะยาวของโรงงานได้เลยทีเดียว ดังนั้นหากเราสามารถควบคุมความชื้นให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมได้ ก็จะป้องกันปัญหาอื่นๆ ที่จะตามมาได้ด้วยครับ

โดยค่าความชื้นทั่วๆไปที่เหมาะสมอยู่ประมาณ RH (Relative Humidity) 40-60% แต่ว่าแต่ละงานจะมี Spec ของเค้าอีกทีนะครับทุกคน

ภาพโดย Nattanan Kanchanaprat จาก Pixabay

เมื่อรู้กันไปแล้วว่าผลกระทบของโรงงานอุตสาหกรรมจากความชื้นในอากาศมีความรุนแรงแค่ไหน จะดีกว่าไหมถ้าเรามีเทคโนโลยีที่สามารถควบคุมความชื้นเหล่านี้ได้? และทำให้โรงงานไม่เสียต้นทุน และยังเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตอีกด้วย ซึ่งวันนี้ทางนายช่างมาแชร์จะขอมาแนะนำเทคโนโลยีใหม่สำหรับการควบคุมความชื้นกันครับ นั้นคือ…

เทคโนโลยีสำหรับโรงงานยุค 4.0 การวัดค่าอุณหภูมิและความชื้นด้วยระบบ Wireless ,IoT จากทาง Murata

โดยเทคโนโลยีนี้จะสามารถวัดความชื้นและอุณหภูมิได้แบบ Real-Time , มีการส่งข้อมูลแบบไร้สาย และยังเป็นเทคโนโลยีการเชื่อมต่อแบบ IoT (Internet of Thing) โดยอุปกรณ์เซนเซอร์วัดความชื้นและอุณหภูมิอัจฉริยะจากทาง Murata

เพียงแค่วางเซนเซอร์ไว้ในตำแหน่งที่ต้องการวัดอุณหภูมิ และความชื้น…หลังจากนั้นเซนเซอร์จะเก็บค่าแล้วส่งข้อมูลไปยังเกตเวย์ แล้วส่งต่อข้อมูลไปยังคอมพิวเตอร์, แทปเล็ต หรือ มือถือ เท่านี้เพื่อนๆ ก็สามารถตรวจวัด และติดตามค่าของอุณหภูมิ และความชื้นได้อย่างง่ายดายเลยครับ

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม การตรวจวัดอุณหภูมิและความชื้นแบบไร้สาย (Wireless Temperature & Humidity Sensor)

ถ้าเพื่อนๆ คนไหนสนใจสามารถติดต่อโดยตรงกับ Murata เพื่อขอข้อมูล หรือขอทดลองตัว Demo ได้ฟรีที่โรงงานของเพื่อนๆเลยนะครับ

ช่องทางติดต่อมูราตะ

คุณเดชไชยนันท์ สอนโกษา (ทิว)

  • วิศวกรฝ่ายขาย
  • โทร: 080-142-0057 
  • อีเมล:[email protected]

คุณรชธร เอกนิตยบุญ (ปุ้)

  • วิศวกรฝ่ายขาย 
  • โทร: 081-132-4462  
  • อีเมล:[email protected]

คุณธนพร คุณากรเรืองกิจ (พลอย)

  • เจ้าหน้าที่บริหารงานขายและการตลาด 
  • โทร: 063-125-6151 
  • อีเมล: [email protected]

คุณณัฐกานต์ ปันส่งเสริม (แอน)

  • นักพัฒนาธุรกิจ 
  • โทร : 081-923-3462
  • อีเมล: [email protected]

#นายช่างมาแชร์ #Murata #Sensor #ความชื้น #Humidity #Technology #IoT

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่