Switchgear เป็นองค์ประกอบสำคัญของระบบไฟฟ้าที่ใช้ในการป้องกัน ควบคุม และแยกส่วนของวงจรไฟฟ้าในสถานการณ์ต่างๆ เช่น การบำรุงรักษา หรือการป้องกันความเสียหายอันเนื่องมาจากไฟฟ้าลัดวงจร (Short Circuit) และโหลดเกิน (Overload) ระบบนี้มักถูกใช้ในสถานีไฟฟ้า โรงงานอุตสาหกรรม และอาคารขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและเสถียรภาพของระบบไฟฟ้า
ประเภทของ Switchgear
- High Voltage Switchgear ใช้สำหรับระบบไฟฟ้าแรงสูง (มากกว่า 36 kV) เช่น สถานีไฟฟ้าแรงสูง ระบบนี้ต้องการอุปกรณ์ที่สามารถทนต่อแรงดันสูงและควบคุมการทำงานได้อย่างปลอดภัย เช่น Circuit Breaker, Disconnect Switch และ Current Transformer (CT)
- Medium Voltage Switchgear ใช้ในช่วงแรงดันปานกลาง (1 kV – 36 kV) เช่น ในโรงงานอุตสาหกรรมหรือระบบจำหน่ายไฟฟ้า โดยทั่วไปจะประกอบด้วย Vacuum Circuit Breaker (VCB) และ Load Break Switch
- Low Voltage Switchgear ใช้ในระบบไฟฟ้าแรงดันต่ำ (น้อยกว่า 1 kV) เช่นในอาคารพาณิชย์หรือโรงงาน ระบบนี้จะประกอบด้วยอุปกรณ์ต่างๆ เช่น Air Circuit Breaker (ACB), Miniature Circuit Breaker (MCB) และ Fuse
BANNER SEUS ENGINEERINGBANNER SEUS ENGINEERING
องค์ประกอบสำคัญของ Switchgear
- Circuit Breaker / disconnecting switch ทำหน้าที่ตัดและต่อวงจรไฟฟ้าโดยอัตโนมัติในกรณีที่เกิดความผิดพลาด เช่น ไฟฟ้าลัดวงจรหรือโหลดเกิน สามารถใช้งานได้ทั้งในแรงดันสูงและแรงดันต่ำ
- Fuse ใช้สำหรับป้องกันวงจรจากกระแสไฟฟ้าเกิน โดย Fuse จะทำงานด้วยการหลอมขาดเมื่อมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านเกินค่าที่กำหนด
- Busbar เป็นตัวนำไฟฟ้าที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ในระบบ switchgear และช่วยในการกระจายพลังงานไฟฟ้า
- Protection Relay อุปกรณ์ที่ตรวจจับความผิดปกติในระบบ เช่น กระแสไฟฟ้าเกิน หรือแรงดันไฟฟ้าต่ำ และส่งสัญญาณไปยัง Circuit Breaker เพื่อทำการตัดวงจร
การเลือกใช้งาน Switchgear
- ความเหมาะสมกับแรงดันไฟฟ้า การเลือก switchgear ต้องพิจารณาค่าแรงดันไฟฟ้าของระบบ เช่น High Voltage, Medium Voltage หรือ Low Voltage
- ความสามารถในการทนกระแสไฟฟ้า Switchgear ต้องสามารถรองรับกระแสไฟฟ้าสูงสุดในกรณีที่เกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้
- การออกแบบที่สอดคล้องกับมาตรฐาน เช่น มาตรฐาน IEC 62271 สำหรับ high voltage switchgear หรือ IEC 60947 สำหรับ low voltage switchgear
- ความปลอดภัย ควรเลือก switchgear ที่มีคุณสมบัติในการป้องกันการลุกลามของไฟและสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัยในกรณีฉุกเฉิน
- ความทนทานและการบำรุงรักษา อุปกรณ์ควรมีอายุการใช้งานยาวนานและง่ายต่อการบำรุงรักษา
ประโยชน์ของ Switchgear
- เพิ่มความปลอดภัย Switchgear ช่วยลดความเสี่ยงของอุบัติเหตุไฟฟ้า เช่น ไฟฟ้าช็อตหรือไฟฟ้าลัดวงจร
- เสถียรภาพของระบบไฟฟ้า ช่วยรักษาความเสถียรของระบบไฟฟ้าโดยการตัดวงจรที่ผิดปกติอย่างรวดเร็ว
- การบำรุงรักษาและการซ่อมแซมง่ายขึ้น ด้วยการใช้ Disconnect Switch หรือ Isolator ทีมงานสามารถแยกวงจรเพื่อทำการบำรุงรักษาได้อย่างปลอดภัย
- รองรับการขยายระบบ Switchgear ถูกออกแบบให้สามารถเพิ่มหรือปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ได้ง่าย เพื่อรองรับการเติบโตของระบบในอนาคต
การใช้งาน Switchgear ในโรงงานอุตสาหกรรม
- สถานีไฟฟ้าย่อย (Substation) ใช้ switchgear สำหรับควบคุมและป้องกันการส่งพลังงานไฟฟ้าไปยังโรงงานหรือส่วนต่างๆ ของระบบ
- ระบบการกระจายพลังงาน Switchgear ใช้ในการกระจายพลังงานไฟฟ้าไปยังโหลดต่างๆ เช่น มอเตอร์ หม้อแปลง และเครื่องจักร
- การป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้า ช่วยป้องกันอุปกรณ์สำคัญในโรงงาน เช่น หม้อแปลงและมอเตอร์จากความเสียหายที่เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรหรือโหลดเกิน
- การจัดการพลังงาน ช่วยในการควบคุมและจัดการการใช้พลังงานไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
สรุป
Switchgear เป็นองค์ประกอบสำคัญของระบบไฟฟ้าที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและเสถียรภาพของระบบในหลากหลายสถานการณ์ ด้วยฟังก์ชันการป้องกัน การควบคุม และการแยกส่วนของวงจรไฟฟ้า การเลือกใช้งาน switchgear ที่เหมาะสม รวมถึงการติดตั้งและบำรุงรักษาอย่างถูกต้อง จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบไฟฟ้า ลดความเสี่ยงของอุบัติเหตุ และรองรับการขยายระบบในอนาคตได้อย่างยั่งยืน
TIE IN โฆษณาให้ทาง SEUS ENGINEERING
แล้วพบกับสาระดีๆแบบนี้ทางด้านงานช่าง งานวิศวกรรม และอุตสาหกรรมได้ที่ นายช่างมาแชร์ นะครับ
Website: www.naichangmashare.com
Facebook: https://www.facebook.com/naichangmashare/
Blockdit : https://www.blockdit.com/naichangmashare
Instragram: https://www.instagram.com/naichangmashare/
Twitter: https://twitter.com/naichangmashare
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCmIPiSeg-uy4k8JYSmknp_g
#นายช่างมาแชร์